Tag: Study Australia

  • Testimonials “น้องทอย” Swinburne University of Technology

    Testimonials “น้องทอย” Swinburne University of Technology

    เรื่องเล่าประสบการณ์ในต่างแดนของน้องๆ Exit’s Alumni

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

     

    พี่เหมียวได้มีโอกาสขอสัมภาษณ์น้องทอย หนุ่มหล่อ อนาคตไกล ที่มีความมุ่งมั่น ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเรียน การทำงาน การใช้ชีวิตในต่างแดนได้คุ้มค่ามากๆ มาเป็นแนวทางให้น้องๆที่กำลังตัดสินใจไปเรียนต่อเมืองนอกได้ฟังกันค่ะ

    นนทพันธ์  วัฒนะนาวินรันต์ (ทอย)
    Master of Design (Industrial Design)
    Swinburne University of Technology, Australia

    [/column]

    [space height=”15″]

    [column col=”1/2″]

    เหตุผลที่เลือก Swinburne University of Technology จริงๆแล้วเพราะพี่ชายเรียนอยู่ก่อนแล้วครับ แล้ว Swinburne ก็มีคณะและสาขาที่อยากเรียนพอดีด้วย แต่ตอนแรกยื่นขอไปเรียน Industrial Design ไม่ผ่านครับ จึงต้องยื่นขอเรียน Master of International Business ไปก่อน พอไปถึงที่นู่นแล้ว ก็พยายามทำ Portfolio ใหม่ แล้วลองยื่นอีกครั้ง เค้าถึงตอบรับครับ ที่อยากเรียน Industrial Design เพราะจบปริญญาตรีทางด้านนี้มาเหมือนกันครับ และเลือก Minor: Sustainable Design เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ และยังใหม่สำหรับประเทศไทย คนอาจยังเข้าใจระบบของมันน้อยอยู่ จึงอยากนำมาใช้และเผยแพร่ให้คนอื่นๆได้รู้ครับ

    [/column]

    [column col=”1/2″]

     

    [/column]
    [space height=”15″]

    เล่าถึงประสบการณ์การเรียนและการอยู่ใช้ชีวิตอยู่ที่ออสเตรเลียให้ฟังครับ

    ตอนเรียนสนุกมากครับ มีเครียดบ้างบางครั้ง เพราะการเรียนเป็นการเรียนแบบลงมือทำจริง ต้องคอยแบ่งเวลาให้ดีครับ และบางวิชาก็เป็น Research ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญกับการเรียนสาขานี้มากครับ ในสาขาวิชานี้ มีคนไทยคนเดียวคือผมครับ เพราะฉะนั้นผมจึงไม่มีโอกาสได้ใช้ภาษาไทยตอนเรียนเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีครับ ทำให้ผมได้ใช้ภาษาอังกฤษคล่องยิ่งขึ้น การเรียนสาขาวิชานี้ ไม่มีสอบเลยครับ ทำ Presentation เสนอตอนจบเทอมทุกวิชา จากพูดไม่ค่อยเก่ง คล่องเลยครับ (ฮา)

    [column col=”1/2″]

    [/column]
    [column col=”1/2″]

    การไปเรียนที่ Melbourne มีข้อดีคือเราสามารถทำงาน Part-time ได้ตามกฏหมายครับ แต่ต้องอยู่ในเวลาที่กำหนด ผมได้มีโอกาสทำงาน Part-time สองที่

    ที่แรกคือร้านอาหารไทย ทำเป็น Chef ครับ อยู่ในครัวไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลย แต่มีบางครั้งก็ออกไปพูดคุยกับลูกค้าบ้างครับ บรรยากาศในการทำงานดีมากครับ ทุกคนคอยช่วยเหลือกัน เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆเลยครับ

    อีกที่ที่ผมมีโอกาสได้ทำงานก็คือ โรงงานเฟอร์นิเจอร์ซึ่งมีเจ้าของเป็นชาว Australian เลยครับ งานนี้ใช้ภาษาอังกฤษเต็มๆ ได้รู้ระบบทำงานของคนต่างชาติก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากเลยครับ

    ผมรบกวนเงินจากทางบ้านแค่ค่าเทอมครับ ส่วนเรื่องค่ากินอยู่ ค่าเช่าบ้าน หรือค่าอื่นๆ ได้จากการทำงานมาใช้ครับ และยังเหลือเก็บกลับมาอีกนิดหน่อยด้วยครับ

    [/column]

    [space height=”10″]

    Melbourne เป็นเมืองหลวงของรัฐวิคทอเรีย เป็นเมืองที่ดีมาก ทั้งเรื่อง Transportation ดีมาก รถไฟ รถราง รถเมล์ ตรงเวลามากครับ อากาศดี  แต่หน้าร้อน ร้อนมากครับ ร้อนกว่าที่ไทย บางวันขึ้นถึง 40 องศา ส่วนเรื่องอื่นๆโดยรวมถือว่าน่าประทับใจมากครับ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากที่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ Melbourne การที่ได้ไปเรียนและทำงานที่นั่น ทำให้เรารู้จักลำดับความสำคัญครับ ถึงผมจะชอบทำงานมากกว่า เพราะเราทำงานแล้วได้เงินมาใช้ แต่ผมก็ไม่ทิ้งเรื่องเรียนครับ เราไปด้วยวีซ่านักเรียน เพราะฉะนั้น การเรียนต้องมาเป็นอันดับหนึ่งครับ การแบ่งเวลาก็เป็นเรื่องสำคัญ ผมเรียน ทำงาน และ ออกไปเที่ยวรอบๆเมืองบ้างบางครั้งครับ

    สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณพี่เหมียว และพี่ๆทีมงาน Exit Education มากๆครับ ที่คอยดำเนินการให้ในทุกๆขั้นตอน หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังคิดอยากจะไปเรียนต่อนะครับ

    [space height=”15″]

    [column col=”1/3″]

    [/column]

    [column col=”2/3″]

    พี่เหมียว และทีมงาน Exit Education ขอแสดงความยินดีกับน้องทอยที่ประสบความสำเร็จไปอีกขั้นนึงของชีวิต และจะคอยเป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ 

    ติดต่อ พี่เหมียว ได้ที่ 080 5548859 ค่ะ
    Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 ,
    สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

    [/column]

     

  • หลากหลายเหตุผลในการเลือกเรียน Deakin University

    หลากหลายเหตุผลในการเลือกเรียน Deakin University

    หลากหลายเหตุผลในการเลือกเรียน Deakin University

    Deakin University เป็นมหาวิทยาลัยที่ชนะเลิศหลายรางวัลสำคัญระหว่างประเทศ เป็นมหาวิทยาลัยนวัตกรรมที่นำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกที่ยอดเยี่ยมและการเรียนรู้ที่มีความยืดหยุ่น

    • มหาวิทยาลัย ผู้ชนะหลายรางวัล

    การที่ Deakin University ได้รับรางวัลในการศึกษาที่สูงขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าสมาคมวิชาชีพอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและมหาวิทยาลัยทั่วโลกยอมรับปริญญาจาก Deakin University

    • ความสำเร็จของบัณฑิต

    หลังจากการสำเร็จการศึกษา การสำรวจพบว่าในปี 2009 ผู้จบปริญญาตรี ได้รับการจ้างงานเต็มเวลา

    • หลักสูตรเน้นความสำคัญกับภาคอุตสาหกรรม

    Deakin University ยังคงมีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับบริษัทชั้นนำและสมาคมวิชาชีพกับผู้แทนอุตสาหกรรม เพื่อเป็นที่ปรึกษาของหลักสูตร จึงมั่นใจว่าสิ่งที่นักศึกษาเรียนรู้ นั้นมีความเกี่ยวข้องในปัจจุบัน และเป็นที่ต้องการของภาคอุตสาหกรรม

    • ตัวเลือกการเรียนรู้ที่มีความยืดหยุ่น

    หลักสูตรของ Deakin University จะมีความยืดหยุ่นเพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์อาชีพของนักศึกษาและภาระผูกพันอื่นๆ บางหลักสูตรมีโปรแกรมการฝึกงานรวมอยู่ด้วย

    • คณาจารย์และนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญ

    คณาจารย์ของ Deakin University มีการเรียนการสอนการวิจัยที่เป็นเลิศ ซึ่งเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในสาขาของพวกเขา ด้วยการเชื่อมโยงระหว่างประเทศในวงกว้าง พร้อมประสบการณ์ที่หลากหลาย ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมมักจะได้รับเชิญมาเป็นวิทยากร

    • สิ่งอำนวยความสะดวกที่ยอดเยี่ยม

    สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยเข้ากับการออกแบบนวัตกรรม ซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้นักศึกษา สามารถเข้าถึงเครื่องมือและเทคโนโลยีล่าสุด

    • โฟกัสนานาชาติ

    Deakin University ยินดีต้อนรับนักศึกษาจากความหลากหลายทั่วโลก และเฉลิมฉลองกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งมีชุมชนออนไลน์ของนักศึกษาต่างชาติ Deakin University มีกว่า 100 มหาวิทยาลัยพันธมิตรทั่วโลก

    • ชีวิตในมหาวิทยาลัยที่ยอดเยี่ยม

    Deakin University เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย มีนักศึกษามากกว่า 39,000 คน ด้วยชุมชน ของนักศึกษา ที่เข้มแข็ง จึงทำให้รู้สึก ว่า Deakin University เป็นสถานที่สนับสนุนและเป็นมิตรเพื่อการศึกษา นักวิชาการของ Deakin มีความรู้มีความกระตือรือร้นและเข้าถึงช่องว่างทางสังคมที่ดี มหาวิทยาลัยมีร้านกาแฟและร้านอาหารที่นักศึกษาจะได้พบปะสังสรรค์และผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังมีหลายสโมสรและสังคมที่ช่วยให้ นักศึกษาสามารถขยายความสนใจ และพบเพื่อนใหม่

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    สนใจขอข้อมูล Deakin University เพิ่มเติม
    Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7, สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

  • Testimonials : “กระติ๊บ” University of wollongong

    Testimonials : “กระติ๊บ” University of wollongong

    เรื่องเล่าประสบการณ์ในต่างแดนของน้องๆ Exit’s Alumni 

    [youtube height=”315″ width=”560″]http://www.youtube.com/watch?v=ViaJgyAh97M[/youtube]

     

    แนะนำตัวหน่อยค่ะ ชื่อ-นามสกุล และหลักสูตรที่กำลังเรียนที่ University of Wollongong, Australia
    ณิชาภัทร พงษ์ศรีประภัสร์ ชื่อเล่น กระติ๊บ ค่ะ เรียน Master of Commerce (Public Relation)

    เหตุผลที่เลือกเรียนสาขาวิชานี้ล่ะคะ
    ความจริงเรียนจบตรีสาขาดนตรีที่เอแบค แล้วอยากเป็นอาจารย์ แต่คิดว่า ไม่เหมาะกับการสอนดนตรี เพราะเบื่อ อยากสอน Business เลยเลือกเรียน Commerce ค่ะ

    [column col=”1/2″]

    อะไรเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเรียนที่ University of Wollongong คะ
    UOW เคยมีเปิดบูทที่เอแบค ตอนนั้นเรียนอยู่ปี 3 กำลังอยากหาที่เรียนต่อ ดูไว้หลายที่เหมือนกัน แต่คิดว่า ที่นี่ก็โอเคที่สุดค่ะ

    บรรยากาศการเรียนการสอนของ University of Wollongong เป็นยังไงคะ
    การเรียนการสอนที่นี่แตกต่างจากเมืองไทยมาก โดยเฉพาะเอแบค ที่เอแบค ถึงจะเรียนเป็นหลักสูตรนานาชาติ แต่หลังจากออกจากห้องเรียน ทุกคนก็พูดภาษาไทยกันหมด เรียนป.ตรีคล้ายๆกับเรียนมัธยม คือการสอนยังเป็นแบบไปท่องมา แล้วจำมาสอบ แต่ที่ UOW มีการค้นหาข้อมูลมาอ้างอิงความคิดเห็นของเรา เค้าเปิดกว้างที่จะรับฟังความคิดเห็นของเรามากกว่า เรารู้สึกว่า เราได้เรียนรู้อะไรด้วยตัวเอง แบบที่เราไม่เคยได้จากตอนเรียนที่เมืองไทย การบ้านเยอะกว่า งานหนักกว่ามากกกก

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”HEIGHT”]

    ช่วยเล่าประสบการณ์วันแรกในการเข้าห้องเรียนหน่อยค่ะ
    วันแรก … (นานมาก จำไม่ได้) แต่ก็คล้ายๆกับเรียนที่เมืองไทย แค่เพื่อนร่วมห้องเป็นคนต่างชาติ แต่คณะ commerce จะมีคนจีนเยอะกว่าเท่านั้นเอง

    แล้ว ณ วันนี้ที่กำลังเรียนอยู่ แตกต่างกันกับวันแรกที่เข้าเรียนยังไง ความรู้สึกเปนยังไงบ้างคะ
    ต่างกันมาก ตอนแรกมาเรียนที่นี่ไม่คิดว่าตัวเองจะอยู่ได้ เพราะเมืองเค้าเงียบมาก ไปเรียน แล้วก็กลับบ้าน ดูไม่มีอะไร แรกๆเข้าเรียน ก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ตอนนี้เริ่มชิน เริ่มรู้สึกว่า ทำรายงานหามรุ่งหามค่ำเป็นเรื่องปกติมากกกก ชิวๆ 55555

    คิดว่าระบบการศึกษาของประเทศออสเตรเลีย ต่างจากระบบการศึกษาไทยอย่างไร
    ระบบที่นี่ให้นักเรียนค้นคว้า เปิดกว้างในการฟังความคิดเห็นของเรา ไม่มีผิด ไม่มีถูก มีแต่แบบไหนเหมาะสมกว่ากัน ที่เมืองไทยยังเป็นแบบท่องจำ อาจารย์ว่ายังไง ก็ต้องตามนั้น ถึงแม้ว่าในใจเราเถียงว่า ไม่จิงอะ ไม่ใช่หรอก แต่เราก็เฉย ไม่ค้านอะไร ที่นี่อาจารย์เหมือนคนให้คำแนะนำ เค้าเป็นกันเองมากกว่า คิดในใจว่า ถ้ามีลูกแล้วมีเงินเยอะๆ จะส่งลูกมาเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ

    สิ่งที่ประทับใจที่สุดในการมาเรียนที่ University of Wollongong ล่ะคะ
    สิ่งที่ประทับใจที่สุด คือ เพื่อนต่างชาติที่อยู่หอพักเดียวกัน เค้าดูแลเราดีมาก ทำให้เรารู้สึกเหมือนที่นี่เป็นบ้าน ไม่เคยคิดว่าจะชอบที่นี่เลย เพราะบรรยากาศแตกต่างจากกรุงเทพสุดๆ

    สุดท้ายนี้ ช่วยฝากอะไรถึงคนที่กำลังจะมาเรียนที่ University of Wollongong หรือกำลังตัดสินจะมาเรียนต่อหน่อยค่ะ
    อยากบอกคนที่คิดจะมาเรียนที่นี่ว่า .. มาเหอะ แล้วจะไม่เสียใจ ยังไม่เคยเห็นใครมาที่นี่ แล้วอยากกลับ อยู่ไม่ไหวซักคน มาพิสูจน์ตัวเองว่าเราก็ทำได้ ไม่แพ้คนอื่นเค้า การได้ทำอะไรด้วยตัวเอง ควบคุมตัวเองได้ เวลาอยู่ไกลบ้าน แล้วยังตั้งใจเรียนได้ด้วย เป็นอะไรที่ภูมิใจสุดๆ เรื่องคิดถึงบ้าน ไม่ต้องพูดถึง มันคิดถึงอยู่แล้วกันทุกคนแหละ อยู่ที่ว่า เราใจสู้หรือเปล่าเท่านั้นเอง

    [message_box title=”ทุนเรียนต่อออสเตรเลีย : University of Wollongong” color=”red”]

    ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนไทย

    ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท:

    • ทุนการศึกษาของ ซิดนีย์ บิสสิเนส สคูล – ในแต่ละปี มีทุนการศึกษาแบบลดค่าเรียนจำนวน 15 ทุนมอบให้แก่นักศึกษาต่างชาติที่สมัครเรียนที่ ซิดนีย์ บิสสิเนส สคูล ทุนการศึกษามีมูลค่าจำนวน AUD 6,010 – AUD 9,015
    • ทุนการศึกษาระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอกโดยการวิจัย-ทุกปี ปีละสองครั้ง มหาวิทยาลัยวูลลองกองมอบทุนการศึกษาด้านวิจัยให้แก่นักศึกษาระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอกที่ศึกษาโดยการวิจัย

    ทุนการศึกษาระดับปริญญาตรี:

    • UOW Undergraduate Excellence Scholarships  ทุนประเภทนี้ลดค่าเรียนให้ 25% ตลอดระยะเวลาของการเรียน เป็นเวลาสูงสุดสี่ปี
    • International Academic Merit Scholarships: สาขาพาณิชย์ศาสตร์ ทุนการศึกษานี้มอบให้แก่นักเรียนมัธยมปลายที่มีผลการเรียนดีเด่นที่สมัครเรียนปริญญาตรีด้านพาณิชย์ศาสตร์และเศรษฐศาสตร์  ทุนการศึกษานี้ช่วยค่าเรียนเพิ่มเติมให้อีก 25% ให้กับนักเรียนที่ได้รับทุน UOW Undergraduate Excellence Scholarships ดังนั้น รวมแล้วนักเรียนที่ได้ทุนนี้ด้วยจะได้รับการลดหย่อนค่าเรียนรวมทั้งสิ้น 50%
    • International Academic Merit Scholarships:สาขาสารสนเทศ, สาขาวิศวกรรมศาสตร์และฟิสิกส์

    ศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยวูลลองกอง (UOW College)

    • ศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยวูลลองกองก็ให้ทุนการศึกษาแบบลดหย่อนเช่นเดียวกัน สำหรับนักศึกษาที่เรียนหลักสูตรปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษและวิชาการต่าง ๆ

    [/message_box]
    [column col=”1/3″]

    [/column]

    [column col=”2/3″]

     

    สนใจข้อมูลหลักสูตร University of Wollongong เพิ่มเติม
    ติดต่อ พี่ฝ้าย ได้ที่ 094-4796544 ค่ะ
    หรือ Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7,
    สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

    [/column]

  • เรียนต่อออสเตรเลีย : 10 เหตุผล ที่เลือกเรียน Charles Sturt University

    เรียนต่อออสเตรเลีย : 10 เหตุผล ที่เลือกเรียน Charles Sturt University

    Charles Sturt University ก่อตั้งเมื่อปี 1989 ตั้งอยู่ในรัฐ NewSouth Wales ระหว่างเมือง Melbourne และ Sydney มีทั้งหมด 5 วิทยาลัยเขต ได้แก่ Albury Wodonga , Bathurst, Wagga, Dubbo (สำหรับปริญญาตรี) และ Orange มหาวิทยาลัยได้มีหลักสูตรมากกว่า 500 หลักสูตร เพื่อให้นักศึกษาได้เลือกตามความเหมาะสม มหาวิทยาลัยมีความคำนึงถึงประสิทธิภาพที่ค่อนข้างสูง ในเรื่องการเรียนการสอน ดังนั้นนักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัย ได้รับการเข้าทำงาน 83% จากการสำรวจของ Graduate Careers Council of Australia ซึ่งถือได้ว่าเป็นจำนวนที่ค่อนข้างสูง

    10 เหตุผล ที่เลือกเรียน Charles Sturt University

    1. มุ่งเน้นความเป็นเลิศทางวิชาการ
      Charles Sturt University ทุ่มเทเพื่อความเป็นเลิศในการส่งมอบการศึกษาที่สูงขึ้นและชื่อเสียงที่ได้รับสำหรับการให้บริการการศึกษา โดยนักวิชาการของ Charles Sturt University ได้รับการสนับสนุนอย่างดี วิธีการวิจัยหลักสูตรและการเรียนการสอนที่รักษาระดับมาตรฐานของความพึงพอใจของผู้สำเร็จการศึกษา
      [space height=”15″]
    2. ผู้สำเร็จการศึกษาของเราได้เข้าทำงาน
      การสำรวจล่าสุดพบว่า 82.3% ของผู้สำเร็จการศึกษาในประเทศ นักศึกษาของ Charles Sturt University ได้เข้าทำงานภายใน4เดือนของการจบปริญญาของพวกเขา นอกจากนี้หลักสูตร Charles Sturt University นำเสนอการเข้าถึงโอกาสในการฝึกงานจากปีแรกของการศึกษานักศึกษาจึงมั่นใจได้ว่ามีความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ในชีวิตจริงและมีการสร้างความสัมพันธ์กับนายจ้างในอนาคตเหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้น
      [space height=”15″]
    3. หลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม
      หลักสูตรของ Charles Sturt University มีการพัฒนาในการทำงานร่วมกับตัวแทนอุตสาหกรรมเพื่อให้แน่ใจว่าทักษะในการจบการศึกษาของนักศึกษา ได้ตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรม หลักสูตรของ CSU ได้รับการรับรองจากรัฐบาลออสเตรเลียที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานอุตสาหกรรม องค์กรเหล่านี้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัยที่จะรับประกันได้ว่าผู้สำเร็จการศึกษาจาก Charles Sturt University เป็นผู้ที่มีความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับอุตสาหกรรม
      [space height=”15″]
    4. การเรียนการสอนที่ทันสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
      ในฐานะที่เป็นนักศึกษาของ Charles Sturt University คุณจะสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในมหาวิทยาลัย รวมทั้งศูนย์คอมพิวเตอร์ห้องสมุดเครือข่ายการเรียนรู้และห้องปฏิบัติการ ตัวอย่างบางส่วนของเทคโนโลยีที่ทันสมัยของมหาวิทยาลัย เช่น ศูนย์สัตวแพทย์คลินิก สำหรับนักศึกษาสัตวแพทยศาสตร์และห้องปฏิบัติการเกม 3D สำหรับนักศึกษาเทคโนโลยี
      [space height=”15″]
    5. Charles Sturt University กับการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ
      Charles Sturt University เป็นสมาชิกของสมาคมมหาวิทยาลัยเครือจักรภพและได้รับเงินสนับสนุนบางส่วนจากรัฐบาลออสเตรเลีย CSU มีพันธมิตรกว่า 60 แห่งในกว่า 25 ประเทศที่อำนวยความสะดวกการแลกเปลี่ยนการวิจัยและการส่งมอบหลักสูตรการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมของนักศึกษาและพนักงาน และมีความหลากหลายของกิจกรรมการศึกษาอื่น ๆ
      [space height=”15″]
    6. วิทยาเขตของ Charles Sturt University
      Charles Sturt University มีวิทยาเขตใน ซิดนีย์ เมลเบิร์น, กรุงแคนเบอร์ร่า และมหาวิทยาลัยในประเทศแคนาดา ทำให้เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย
      [space height=”15″]
    7. ที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยและให้การสนับสนุนการศึกษาและสิ่งแวดล้อม
      ที่ Charles Sturt University นักศึกษาจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด รับปริญญาที่มีคุณภาพสูงในขณะที่เพลิดเพลินกับชีวิตทางสังคมที่ดี ลดค่าใช้จ่ายของการอยู่อาศัย อากาศสดชื่นและความรู้สึกที่เพิ่มขึ้นของความปลอดภัย ในการใช้ชีวิตและการศึกษาในภูมิภาคออสเตรเลีย วิทยาเขตของ Charles Sturt University ตั้งอยู่ในใจกลางนครซิดนีย์และเมลเบิร์นที่ช่วยให้นักศึกษาได้สัมผัสกับชีวิตในเมือง
      [space height=”15″]
    8. การวิจัยที่สำคัญ
      Charles Sturt University มีความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศในการวิจัย การระบุและการสนับสนุนพื้นที่และโครงการที่ช่วยให้การดำเนินการของการวิจัยในการแข่งขันในระดับสากลและการฝึกอบรมการวิจัย
      [space height=”15″]
    9. การเรียนรู้ที่มีความยืดหยุ่น
      Charles Sturt University มุ่งมั่นที่จะส่งมอบความยืดหยุ่นของการเรียนรู้และการเรียนการสอนและการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ความยืดหยุ่นและตอบสนองความต้องการของนักศึกษา สภาพแวดล้อมทางวิชาการ Charles Sturt University ออนไลน์โต้ตอบ Charles Sturt University เป็นระบบที่ให้การเข้าถึงทรัพยากรการเรียนรู้และการวิจัยและโอกาสที่จะทำงานร่วมกันและการติดต่อสื่อสารออนไลน์
      [space height=”15″]
    10. อนาคตของคุณ
      ในขณะที่เรียนอยู่ที่ Charles Sturt University นักศึกษาจะได้เรียนรู้ทักษะที่จะนำคุณไปไกลเกินหัวข้ออาชีพ เช่น Charles Sturt University มีวิธีการสอนที่จะให้ นักศึกษากลายเป็นผู้ที่สามารถเรียนรู้ตลอดชีวิต เข้าใจถึงความร่วมมือ ของวิธีการคิดวิเคราะห์และวิธีการสื่อสารที่ยืดหยุ่น เพื่อการเรียนรู้และการแก้ปัญหา
      [space height=”15″]

    หลักสูตรเด่นสำหรับนักเรียนไทย

    ปริญญาตรี

    • Bachelor of Business
    • Bachelor of Arts
    • Bachelor of Computer Science
    • Bachelor of Agricultural Business Management

    [space height=”15″]

    ปริญญาโท

    • MBA
    • Master of Business
    • Master of Accountancy
    • Master of Information Technology

    [space height=”15″]

    [message_box title=”ทุนเรียนต่อออสเตรเลีย : Charles Sturt University” color=”red”]

    ข้อมูลทุนสำหรับ International Students

    www.csu.edu.au/courses/fees-and-costs/help-with-costs/scholarships/find/international

    [/message_box]

    [space height=”15″]

    ดูข้อมูลหลักสูตรเพิ่มเติม ได้ที่ www.exiteducation.com/australia/charles-sturt-university

    [column col=”1/3″]

    [/column]

    [column col=”2/3″]

     

    ติดต่อ พี่สุ ได้ที่ 098-2619915 ค่ะ
    Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

    [/column]

  • เรียนต่อออสเตรเลีย : Study Perth ศูนย์การศึกษานานาชาติแห่งออสเตรเลียตะวันตกในกรุงเทพฯ

    เรียนต่อออสเตรเลีย : Study Perth ศูนย์การศึกษานานาชาติแห่งออสเตรเลียตะวันตกในกรุงเทพฯ

    Study Perth ศูนย์การศึกษานานาชาติแห่งออสเตรเลียตะวันตกในกรุงเทพฯ

    [column col=”1/2″]

     

    ด้วยบทบาทหลายหน้าที่ ทั้งนักแสดง นางแบบ วีเจ พรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์ เจ้าของบริษัทเอเจนซี่บริหารศิลปิน สเตลล่า อาร์ตทิส (Stellar Artists) ภรรยานักธุรกิจหนุ่มสัญชาติ ฮ่องกง-อังกฤษ มร. เอ็ดเวิร์ด บัทเทอรี่ และ คุณแม่ของลูกสาววัยน่ารัก น้องไลลา “พอลล่า เทย์เลอร์” จึงดูคล่องแคล่วอยู่เสมอ ประกอบกับการใช้ชีวิตอยู่ทั้งที่เมืองนอกและในประเทศไทย ทำให้พอลล่า มีวิสัยทัศน์กว้างไกล โดยเฉพาะในฐานะรุ่นพี่คนหนึ่งที่เคยใช้ชีวิตที่ประเทศออสเตรเลียและเลือกศึกษาเล่าเรียนต่างประเทศก่อนที่จะลงหลักปักฐานอยู่ที่ประเทศไทย

    [/column]

    [column col=”1/2″]


    พอลล่า กำลังให้สัมภาษณ์ถึงประสบการณ์ที่ใช้ชีวิตอยู่ Perth มา 16 ปี

    [/column]

    [column col=”1/2″]


    บรรยากกาศงาน Perth Education ณ โรงแรมหรรษา กรุงเทพ

    [/column]

    [column col=”1/2″]


    คุณพอลล่าและนายกเทศมนตรีเมืองเพิร์ธ Lisa Scaffidi 

    [/column]

    [space height=”HEIGHT”]

    ด้วยประสบการณ์ที่เคยอาศัยและศึกษาอยู่ที่เมืองเพิร์ธ รัฐออสเตรเลียตะวันตก 16 ปี ทำให้เมืองเพิร์ธ เป็นเมืองอันดับต้นๆ ที่พอลล่าอยากแนะนำให้รุ่นน้อง นักเรียน นักศึกษาได้ไปเรียนหนังสือและใช้ชีวิตที่นั่น พอลล่า เล่าว่า เมื่ออายุได้ 7 ขวบ พอลล่า ได้ย้ายตามครอบครัวเดินทางไปประเทศออสเตรเลีย และอาศัยอยู่ที่เมืองเพิร์ธ ในรัฐออสเตรเลียตะวันตก โดยเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนในเมืองเพิร์ธจนถึงชั้นมัธยม และใช้ชีวิตอยู่ที่เพิร์ธเป็นเวลา 16 ปี ก่อนที่จะย้ายไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อศึกษาต่อ  

    [column col=”1/2″]

     

     

    สำหรับพอลล่าแล้ว เพิร์ธเป็นเมืองที่มีความพิเศษ เป็นเมืองที่สุดยอดที่พอลล่าได้ใช้ชีวิตอยู่ในช่วงวัยเด็ก พอลล่ามีความทรงจำดีๆ กับที่นี่มากมาย สนุกกับการเรียนและกิจกรรมพิเศษในช่วงวันหยุดมากมาย วิถีชีวิตของผู้คนในเมืองเพิร์ธเหมาะกับนักเรียน นักศึกษาที่ไปเรียนที่นี่อย่างมาก ไม่ต้องผจญกับชีวิตที่สับสนวุ่นวาย เช่น ปัญหาจราจร มลภาวะอากาศเป็นพิษ อากาศที่เพิร์ธท้องฟ้าโปร่ง เป็นสีฟ้าใส อากาศบริสุทธิ์และสวยงาม  

    [/column]

    [column col=”1/2″]


    คุณพอลล่ากับพี่แพ็ตตี้

    [/column]

    [space height=”10″]

    นอกจากนั้น ในเรื่องของระบบการขนส่ง หรือการเดินทางไป-กลับสะดวกและปลอดภัย พอลล่าสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ด้วยตนเอง และรู้สึกปลอดภัย แม้ว่าเราจะเป็นเด็กผู้หญิงก็ตาม ในช่วงวันหยุด สุดสัปดาห์ ยังมีกิจกรรมต่างๆ มากมายให้ทำ ทำให้ไม่เหงาและยังช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของเราไปในตัวอีกด้วย โดยส่วนมากนักเรียน นักศึกษาที่เดินทางไปเรียนต่อที่เพิร์ธ จะทำงานพาร์ทไทม์ควบคู่ไปด้วย ทำให้มีรายได้พิเศษค่อนข้างดีทีเดียว อีกทั้งยังช่วยให้มีเพื่อนใหม่ ได้พัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ และเมื่อเร็วๆ นี้ พอลล่าได้มีโอกาสกลับไปเยือนเมืองเพิร์ธ และสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เพิร์ธ ไม่ได้เป็นเมืองที่เงียบสงบอีกต่อไป มีร้านค้าผุดขึ้นมากมาย ทั้งคาเฟ่ บาร์ ร้านค้า ร้านอาหาร ดูคึกคักมีชีวิตชีวา ซึ่งทำให้เป็นสถานที่ที่ดีมากในการเพลิดเพลินกับสิ่งที่ตัวเองชอบและรัก และด้วยประสบการณ์โดยตรงที่พอลล่าได้รับจากเมืองเพิร์ธ ทำให้พอลล่า ได้คิดถึงการจะส่งลูกสาวไปศึกษาที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อถึงวัยที่ต้องเข้าเรียน พอลล่า บอกว่า 

    เมื่อนึกถึงการส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ พ่อแม่มักจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย ค่าใช้จ่าย คุณภาพโรงเรียนและระบบการศึกษา คุณภาพชีวิต เป็นต้น เพิร์ธ สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ครบถ้วนทุกเงื่อนไขและทุกมาตรฐานที่เราตั้งไว้ สำหรับพอลล่า แล้วจะให้ลูกสาวไปเรียนที่เพิร์ธ รัฐออสเตรเลียตะวันตก ประเทศออสเตรเลียอย่างแน่นอน  

    [space height=”10″]

    [column col=”1/2″]


    บรรยากาศงานสัมนา Perth Education
    ที่ Exit ได้เข้าร่วม 

    [/column]

    [column col=”1/2″]


    พี่เหมียวและพี่แพ็ตตี้กับ Principle ที่น่ารักทั้งสองท่าน
    จาก Phoenix Academy 

    [/column]

    [space height=”HEIGHT”]

    [column col=”1/2″]


    Patty with Perth Lord-Mayor; Lisa Scaffidi
    นายกเทศมนตรีหญิงแห่งเมืองเพิร์ธ

    [/column]


    Patty and Lisa, Marketing and Student support
    จากสถาบัน Phoenix Academy

    [space height=”HEIGHT”]

    [column col=”1/2″]

     
    ตัวแทนที่ได้เข้าร่วมงาน Perth Education

    [/column]

    [column col=”1/2″]

     
    Patty and Nisha Naseer; Regional Marketing from MURDOCH เป็นศิษย์เก่าของ Murdoch อีกด้วย 

    [/column]

    น้องๆที่สนใจอยากไปเรียนที่เมืองเพิร์ธเหมือนคุณพอลล่า
    โทรมาปรึกษา ขอข้อมูลเพิ่มเติมกับ  Exit Education นะคะ
    สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

    Perth Education 

    [youtube height=”315″ width=”560″]http://www.youtube.com/watch?v=ISe99ZEeMv0[/youtube]

    [space height=”10″]

    [youtube height=”315″ width=”560″]http://www.youtube.com/watch?v=HD0eF4XhIyo[/youtube]

    [space height=”10″]

    ข้อมูลจาก  www.manager.co.th

  • Queensland University of Technology : Master of International Business

    Queensland University of Technology : Master of International Business

    สวัสดีค่ะน้องๆ วันนี้พี่ฝ้ายได้มีบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งของศิษย์เก่ามหาวิทยาลัย QUT หรือ Queensland University of Technology, Brisbane ซึ่งเป็นหนึ่งในทีม counselor ของ Exit Education มาให้คำแนะนำเพื่อแบ่งปันเป็นความรู้และประสบการณ์ตรงกันนะคะ

    [column col=”1/2″]

     

    บทสัมภาษณ์จากศิษย์เก่า

    Queensland University of Technology (QUT)

    “น้องผึ้ง” นพรัตน์ มณีวรรณ

    Master of International Business

    ปีที่จบการศึกษา 2010

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”15″]

    เหตุผลที่เลือกเรียนที่ Queensland University of Technology

    3 สิ่งที่อยู่ด้วยกันอย่างลงตัว และเป็นส่วนช่วยในการตัดสินใจเรียนที่ Queensland University of Technology นี้ ก็คือ ที่ตั้งของมหาวิทยาลัย เมือง  Brisbane, ชื่อเสียงด้านการเรียนการสอน และคณะที่หลากหลายของมหาวิทยาลัย

    QUT ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง เป็นอันดับสองของรัฐ Queensland และมีความโดดเด่นในการด้านการเรียนการสอน สาขา Business, IT, Education

    เมือง Brisbane ได้ชื่อว่าเป็นเมืองการศึกษา เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน วิทยาเขตหลักๆของ QUT อย่างเช่น Garden Points และ Kelvin Grove เป็นวิทยาเขตที่ใหญ่โต มีความทันสมัยของตึกเรียน ห้องเรียน ห้องสมุด ภายนอกก็เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว ให้นักเรียนได้มาพักผ่อน อ่านหนังสือ หรือติวหนังสือกับเพื่อนๆ

     

    ความประทับใจแรกเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย

    ความประทับใจแรก เกิดขึ้นจากสโลแกนของมหาวิทยาลัย ซึ่งก็คือ “QUT a university for the real world” เหมือนตอบโจทย์ตัวเองว่า ถ้าเรียนที่นี้ เราจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ และความรู้ใหม่ ที่มีอยู่, เกิดขึ้น และนำไปใช้ได้จริงกับการงานในอนาคตของเรา ใม่ว่าเราจะทำงานด้านไหนก็ตาม

    นอกจากนี้บรรยากาศโดยรอบมหาวิทยาลัย ทำให้รู้สึกตกหลุมรัก และรู้สีกอยากเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยแห่งนี้  ไม่ว่าจะเป็นการได้ใกล้ชิดกับต้นไม้ ดอกไม้ และความเขียวขจีของธรรมชาติ ที่ Botanic Gardens หรือสวนพฤกศชาติ ที่อยู่ติดกับ แคมปัส Garden points ความทันสมัยของห้องสมุด และห้องคอมพิวเตอร์ ที่เมื่อเห็นต้องร้องว่า “OH” มันใหญ่มาก

     

    ระบบการเรียนการสอนที่ QUT แตกต่างจากเมืองไทยอย่างไร มีวิธีการปรับตัวอย่างไร

    ระบบการเรียนการสอนที่ QUT นั้น ค่อนข้างแตกต่างกับระบบการเรียนของประเทศไทย  ที่นี่จะสอนให้เราเรียนรู้ ค้นคว้า คิด และรู้จักนำไปใช้ มากกว่าการเรียน และท่องจำแต่ในตำรา ในแต่ละวิชาจะมีคลาส Lecture และคลาส Tutorial แยก section ซึ่งคลาส Lecture นั้นจะเรียนประมาณ 2-3 ชั่วโมง อาจจะเป็นคลาสใหญ่หรือคลาสเล็ก สำหรับคลาส Tutorial นั่น เด็กไทยอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคย คลาสนี้เป็นคลาสที่มีประโยชน์มาก เพราะจะเป็นเหมือนคลาสเสริม เรียนรู้เพิ่มเติม และพูดคุยกับอาจารย์ผู้สอนได้อย่างใกล้ชิด เวลาเรียนก็เอาหัวข้อรายงาน (Assignment) มานั่งจับกลุ่ม และช่วยกันออกความคิดเห็น ว่าเราควรจะทำรายงานไปในทิศทางไหน ตีความของคำถามได้ถูกต้องหรือไม่ โดยมีอาจารย์คอยให้คำปรึกษา  บางครั้งอาจารย์ก็จะนำบทความต่างๆ ที่เกี่ยวกับบทเรียนมาให้เราวิเคราะห์

    นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังจัดให้มี  Language and Learning Support สำหรับการให้คำปรึกษาทางด้านการวิเคราะห์โจทย์รายงาน การเขียนรายงาน โดยการช่วยตรวจดูการใช้ภาษาในการเขียน หลักไวยากรณ์ หรือการสร้างประโยค นักเรียนสามารถเข้าพบที่ปรึกษา เพื่อขอความช่วยเหลือ แบบ Face-to-Face หรือส่งรายงานให้ตรวจสอบทาง online ก็ได้

    วิธีการปรับตัวให้เข้ากับการเรียนที่นี้ เห็นจะเป็นเรื่องของภาษา ที่ค่อนข้าง Academic สำหรับการเรียนปริญญาโท การวิเคราะห์หัวข้อรายงาน และวิธีการค้นคว้าแหล่งข้อมูลต่างๆสำหรับนำมาประกอบการทำรายงาน  ซึ่งแตกต่างจากที่เรียนมาจากเมืองไทยมากๆ แต่โชคดีทีว่า QUT มีคอร์ส English Academic of Purpose หรือเรียกว่าคอร์สภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ ให้เรียนปรับพื้นฐานก่อนเข้าเรียนปริญญาโท เป็นคอร์สที่มีประโยชน์มากๆ เลยทำให้ใช้เวลาปรับตัวไม่นานนัก

     

    กิจกรรมยามว่าง ที่ทำในระหว่างเรียน

    ในระหว่างที่เรียน ถ้านอกเหนือจากการทำรายงานและการเข้าคลาสเรียนแล้ว ก็จะทำงานพิเศษ อาทิเช่น ร้านอาหารไทย และร้านซักอบรีด แต่จะเน้นทำแค่ประมาณ 2-3 วันต่อสัปดาห์ นอกนั้นก็จะใช้เวลากับการไปเดินเล่น กินข้าว ช้อปปิ้ง ดูหนัง กับเพื่อนๆ บ้าง  หรือไม่ก็ทำอาหารกินกันที่บ้าน

     

    ความรู้สึกเกี่ยวกับเพื่อนต่างชาติและอาจารย์ผู้สอน

    อาจารย์ที่ QUT เป็นอาจารย์ที่น่ารัก และคอยให้ความช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติเป็นอย่างดี อาจารย์จะเป็นทั้งผู้ให้ความรู้ และคำปรึกษา มีความเข้าใจในการสอนนักเรียนต่างชาติเป็นอย่างดี อาจารย์จะพูดเสมอว่า การเรียนปริญญาโทไม่ใช่เรื่องยาก ภาษาอังกฤษของคุณไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ ไวยากรณ์ไม่จำเป็นต้องแม่น แค่คุณรู้จักค้นคว้า คิด วิเคราะห์ และนำสิ่งที่เรียนมานั้นนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในแบบตัวคุณ แค่นี้การเรียนปริญญาโทก็จะง่ายนิดเดียว ภาษาอังกฤษ ก็จะดีขึ้นไปด้วย

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    สำหรับเพื่อนๆ ทั้งในคลาสและนอกคลาส ก็จะมีทั้งเอเชีย เช่น จีน  อินโดนีเซีย สิงค์โปร์ ไต้หวัน  มียุโรป และคนออสเตรเลียบ้าง ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างนึง เวลาเรียนก็จะได้แลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิด และวัฒนธรรมที่สัมพันธ์กับบทเรียนกันเสมอ อย่างเช่น วิธีการทำการตลาด และ มุมมองการทำธุรกิจในแบบประเทศของตน ด้านนอกห้องเรียนบางครั้งก็จะนัดทำอาหารกินกัน หรือจัดปาร์ตี้ แต่ละคนก็จะนำอาหารของชาติตัวเองมาให้เพื่อนๆได้ลองกิน  ถึงเวลาสอบ ใครเก่งด้านไหน ก็มาช่วยติวหนังสือ แบบไม่หวงความรู้  หลังจากจบแล้ว ก็ยังติดต่อกันเสมอ

    [/column]

    [space height=”15″]

    ชมรมนักเรียนไทย

    ที่มหาวิทยาลัยจะไม่ได้มีเป็นชมรมคนไทย แต่เราจะรู้จักกันเองจากเพื่อนแนะนำบ้าง จากรุ่นสู่รุ่นบ้าง บางครั้งพวกเราจะก็นัดทำอาหารไทยกินกัน หรือไปปิคนิค นอกจากนี้ที่บริสเบนก็จะมีวัดไทย จัดว่าเป็นศูนย์รวมคนไทยอีกแห่งนึง ที่วัดก็จะมีการจัดงานให้เด็กไทยได้ทำบุญในวันสำคัญๆ เสมอ อย่างเช่น งานวันสงกรานต์

     

     หอพักมหาวิทยาลัยเป็นยังไง

    ที่ QUT จะมีหอพักของมหาวิทยาลัย ตั้งอยู่ที่วิทยาเขต Kelvin Grove เป็นหอที่ใหม่และกว้างขวางมาก มีทั้งแบบอยู่คนเดียวและแชร์กัน ค่าที่พักแบบหอในนี้จะค่อนข้างแพง ไม่ค่อยเป็นที่นิยมของคนไทย แนะนำว่าหาที่พักข้างนอกอยู่แชร์กัน จะถูกกว่าเยอะมาก สามารถเลือกอยู่ในเมือง  (Zone 1 ) หรือ ประมาณโซน 2 ก็ได้ ค่าเช่าแบบรวมทุกอย่างจะอยู่ที่ประมาณ 120-150 เหรียญ ต่อสัปดาห์  การเดินทางก็สะดวก เพราะว่า QUT จะมีรถบัสบริการนักเรียนฟรี วิ่งไป-มา ระหว่างวิทยาเขต Garden points และ Kelvin Grove

     

    ความรู้สึกหลังเรียนจบ มีความประทับใจอะไรกับมหาวิทยาลัยบ้าง

    [column col=”1/2″]

    QUT มหาวิทยาลัยที่ให้คุณสัมผัส เรียนรู้ทุกอย่างจากโลกแห่งความเป็นจริง ทุกบทความทุกเรื่องราวที่อาจารย์นำมาสอนนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง  เมื่อถึงเวลาที่เราต้องก้าวสู่การเป็นผู้มีอาชีพ เราสามารถนำทุกสิ่งที่เราเรียนรู้จากมหาวิทยาลัยแห่งนี้มาใช้ และพลิกแพลง หรือเกิดไอเดียใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี

    เพื่อนๆที่เราได้รู้จักและใช้ชีวิตการเรียนร่วมกัน ก็คงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอ QUT จะมีการจัดงานรวมศิษย์เก่าในแต่ละประเทศอยู่เสมอ พวกเราจะได้มาเจอกัน และได้เห็นความเติบโตของเพื่อนๆ เป็นสิ่งที่น่าประทับใจมากๆค่ะ

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”15″]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    ความในใจถึง QUT

    ต้องขอขอบคุณมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ที่สอนให้มีความพยายาม อดทนกับความเหนื่อย และสู้กับการเรียน ก้าวแรกที่ก้าวเข้าไปคิดเลยว่าปริญญาโทยากมาก คงไม่รอด แต่สุดท้ายก็ก้าวออกจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วยความภาคภูมิใจ QUT สอนให้เราสัมผัสกับความจริง กล้าคิด กล้าแสดงออก และกล้าทำ เราต้องพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเสมอ ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม QUT ถึงได้ 5 Stars getting job เพราะที่นี้ผลิตบัณฑิต ออกไปสู่ตลาดงานเยอะมาก

    [/column]

    [space height=”15″]

    จากบทสัมภาษณ์ของน้องผึ้ง ศิษย์เก่า QUT คนนี้ พี่หวังว่าน้องๆคงจะได้แง่คิดและมุมมองต่างๆมากมายในการเลือกเรียนต่อต่างประเทศนะคะ การเรียนต่อต่างประเทศนับเป็นการเปิดโลกทัศน์และสร้างประสบการณ์ในการใช้ชีวิตให้น้องๆอย่างมากค่ะ ดังนั้นการเลือกประเทศ เลือกมหาวิทยาลัยจึงเป็นปัจจัยแรกที่น้องๆต้องศึกษาและตัดสินใจค่ะ
    พี่ฝ้ายและพี่ผึ้ง รวมถึงเจ้าหน้า Exit Education ทุกคนยินดีและพร้อมที่จะให้คำปรึกษาด้านเรียนต่อต่างประเทศ เพื่อให้การตัดสินใจของน้องง่ายขึ้นและเกิดประโยชน์มากที่สุดนะคะ

    สามารถติดต่อพี่ฝ้าย 094-4796544 อีเมล์  smanun@exiteducation.com 
    Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

  • Testimonials : “น้องณิศ” University of Wollongong

    Testimonials : “น้องณิศ” University of Wollongong

    University of Wollongong

    Master of Engineering Practice (Mechanical)

     

    [column col=”1/2″]

    วันนี้พี่สุขอนำประสบการณ์ของน้องนักศึกษาไทยที่เรียนจบจาก University of Wollongong มาเล่าประสบการณ์การเรียนค่ะ

    ณิศ เอกโพธิ์ น้องคนเก่งของเรา ที่จบปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโททันที ที่ University of Wollongong ผ่านไป 1 ปี ตอนนี้ น้องณิศ ก็ได้รับปริญญาโทด้านวิศวกรรมศาสตร์ จาก University of Wollongong มาครอบครอง อย่างภาคภูมิใจ

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”HEIGHT”]

    Master Of Engineering Practice ที่ University of Wollongong เป็นหลักสูตร 1 ปี นักศึกษาสามารถเลือกเรียนได้หลายเมเจอร์ หากน้องๆสนใจเรียนต่อ Engineering สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก พี่สุ โทร 098-2619915 หรือ Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

    [space height=”15″]

    ก่อนเรียนปริญญาโทใบนี้ ผมได้เรียนคอร์สภาษาอังกฤษของ University of Wollongong ก่อนเป็นเวลา 18  สัปดาห์ เพื่อปรับพื้นฐานก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งได้เพื่อนมากมายจากคอร์สนี้ ช่วงที่เข้ามหาวิทยาลัย ตอนแรกก็ยากลำบากพอสมควร เพราะคณะ Engineering แทบไม่มีคนไทยเลย ส่วนมากจะเป็นชาติจากตะวันออกกลาง และคนออสซี่  คนไทยนับได้มีแค่ไม่ถึง 5 คน แล้วยิ่งเป็น Major mechanical ไม่มีคนไทยเลย ทำให้การสื่อสารบังคับให้ใช้ภาษาอังกฤษอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งช่วงแรกต้องปรับตัวพอสมควร การเรียนการสอนแตกต่างจากที่ประเทศไทยโดยสิ้นเชิง ที่นี่จะเน้นการทำงานเป็นกลุ่มเป็นทีม มีการถามตอบกันแทบตลอดเวลา นักเรียนจะพยายามแสดงความคิดเห็นหรือถามอาจารย์บ่อยมาก ซึ่งมาช่วงแรกผมตกใจมาก เพราะดูทุกคนเก่งกันมาก แต่พอผ่านไปซักระยะก็เริ่มปรับตัวได้

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    คณะที่ผมเรียนจะมี ทั้งหมด 8 วิชา 4 วิชาเป็นวิชาบังคับ ซึ่งนักเรียนที่เรียน Master of Engineering Practice ทุกๆ major ต้องเรียนเหมือนกันทุกคน อีก 4 วิชาเป็นวิชาเลือกของแต่ละ major ซึ่งทุกวิชาจะมีคาบ Lecture และคาบ tutorial โดยคาบ tutorial นั้นเอาไว้ทำแบบฝึกหัดและ discuss กับอาจารย์และนักเรียนในห้องเรียน

    สาขาที่เรียนนั้น ใน 4 วิชาที่ผมเลือกจะมี Ocean Engineering, Energy Efficiency and Energy Auditing in the Built Environment, Sustainable energy transport and engine technologies and Sustainable energy technologies ซึ่งวิชาข้างต้นที่กล่าวมา ถ้าเราเรียนสาขาเครื่องกลผ่านมาแล้ว สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยากจนเกินไปนัก เพราะวิชาเหล่านี้เนื้อหาจะ advance จากวิศวะเครื่องกลตอนเรียนปริญญาตรี แต่จะมีปัญหานิดหน่อยเวลาทำงานเดี่ยวและงานกลุ่ม เพราะไม่เคยชินกับการเรียนการสอนแบบนี้ คือต้องค้นคว้าจากห้องสมุด ถ้าไม่เข้าใจต้องเข้าไปพบอาจารย์บ่อยๆ โดยอาจารย์จะช่วยชี้แนะแต่จะไม่บอกทั้งหมด ให้เราค้นคว้าและคิดเองเกือบทั้งหมด

    [/column]

    [space height=”15″]

    ต่อมาเป็นวิชาบังคับ 4 วิชา มี Strategic management engineers and technologists, Innovation and design, Engineering project management and Engineering computing วิชาเหล่านี้ในความคิดเห็นของผมเป็นวิชาที่ยากทั้งหมด เพราะวิชาเหล่านี้คนที่เรียนวิศวะมาจะไม่เคยเรียนวิชาพวกนี้มาเลย วิชาเหล่านี้จะเน้นการอ่านหนังสือและเขียนเรียงความเป็นหลักเพราะฉะนั้นภาษาอังกฤษต้องดีในระดับหนึ่ง มีคำนวณน้อยมากหรือบางวิชาไม่มีเลย ยกเว้นวิชา Engineering computing ซึ่งจะเน้นการใช้โปรแกรม และการคำนวณเป็นหลัก แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี จบตามระยะเวลาของหลักสูตรคือ 2 เทอม.. ส่วนประสบการณ์การใช้ชีวิตในเมือง Wollongong และการเรียนร่วมกับเพื่อนๆ นักศึกษาต่างชาติ เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจอย่างมาก ถ้าเพื่อนๆสนใจ University of Wollongong สอบถามมาได้นะครับ 

    [column col=”1/3″]

    [/column]

    [column col=”2/3″]

     

    ติดต่อ พี่สุ ได้ที่ 098-2619915 ค่ะ
    Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

    [/column]

  • มาเป็นเชฟระดับโลกกับ Le Cordon Bleu, Australia กันเถอะ!

    มาเป็นเชฟระดับโลกกับ Le Cordon Bleu, Australia กันเถอะ!

    มาเป็นเชฟระดับโลกกับ Le Cordon Bleu, Australia กันเถอะ!

    [column col=”1/2″]

     

    พี่เหมียวเชื่อว่าน้องๆหลายคนคงเคยได้ยินชื่อสถาบันแห่งนี้กันมาบ้างแล้ว แต่จะมีสักกี่คนค่ะที่พอจะทราบว่าสถาบันแห่งนี้คืออะไร Le Cordon Bleu นั้นเป็นภาษาฝรั่งเศสค่ะ มีความหมายว่า “โบว์สีฟ้า” ซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงถึงชัยชนะและความยอดเยี่ยม

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”15″]

    Le Cordon Bleu ก่อตั้งครั้งแรกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1895 แต่ Le Cordon Bleu ไม่ได้เป็นสถาบันสอนภาษานะคะ เพราะ Le Cordon Bleu นั้นเปิดสอนหลักสูตรการทำอาหารและทำขนมระดับสูงซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในโรงแรมระดับห้าดาวทั่วโลก ปัจจุบันนั้น Le Cordon Bleu มีสาขาอยู่มากกว่า 30 สาขา ใน 15 ประเทศทั่วโลก โดยจะเปิดสอนในหลักสูตรการโรงแรมและการทำอาหาร รวมถึงทำขนมอีกด้วย ทุกหลักสูตรของ Le Cordon Bleu นั้นได้รับการยอมรับในระดับสากลเลยทีเดียว

    วันนี้ พี่เหมียวจะขอแนะนำ Le Cordon Bleu ในประเทศออสเตรเลียค่ะ ด้วยแหตุผลที่ว่าน้องๆสามารถทำงานระหว่างเรียนไปด้วยได้นั่นเอง Le Cordon Bleu, Australia มีอยู่ด้วยกัน 3 วิทยาเขต คือ วิทยาเขต Sydney วิทยาเขต Melbourne และวิทยาเขต Adelaide โดยที่ทั้ง 3 วิทยาเขตจะเปิดสอนหลักสูตรการโรงแรมในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทอีกด้วย

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    หลักสูตร Diploma ปริญญาตรี และปริญญาโท ของ Le Cordon Bleu, Australia นั้นเป็นหลักสูตรเฉพาะของ Le Cordon Bleu ซึ่งน้องๆจะได้มีโอกาสไปฝึกงานตามโรงแรมที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ทั้งนี้ก็เพื่อประสบการณ์การเรียนรู้งานจากประสบการณ์จริง อีกทั้งยังได้รับค่าจ้างในอัตรามาตรฐานอีกด้วย น้องๆจึงมั่นใจได้เลยว่าเมื่อสำเร็จการศึกษาจาก Le Cordon Bleu น้องๆจะมีโอกาสที่ดีในการประกอบอาชีพในสาขานี้ต่อไปในอนาคต

    น้องๆคนไหนที่สนใจสมัครหรือสอบถามรายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรของ Le Cordon Bleu สามารถติดต่อพี่เหมียว ได้ที่  080-5548859ได้เลยค่ะ
    หรือ Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

    [youtube height=”315″ width=”560″]https://www.youtube.com/watch?v=Ve_vkfvfulA[/youtube]

  • Exit Activities : UTAS Seminar 16 February 2013

    Exit Activities : UTAS Seminar 16 February 2013

    – สวัสดีค่ะ น้องๆทุกคน

    เนื่องจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทาง Exit Education ได้จัดงานสัมมนาศึกษาต่อ “Go Global with a UTAS Masters Degree” เรียนโท โกอินเตอร์ง่ายนิดเดียว กับ University of Tasmania โดยเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าร่วมฟังบรรยายโดย Dr Rob Hecker, Director of Postgraduate coursework จาก University of Tasmania ค่ะ พี่ฝ้ายได้เก็บภาพบรรยากาศของงานมาให้น้องๆ ได้ชมกันนะคะ

    Dr Rob ได้บรรยายเกี่ยวกับระบบการศึกษาของประเทศออสเตรเลีย รวมถึงประวัติความเป็นมา และบรรยากาศวิทยาเขตต่างๆของ University of Tasmania ค่ะ อีกทั้ง Dr Rob ยังได้ให้ความรู้เกี่ยวกับข้อดีในการเรียนต่อต่างประเทศซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อการเข้าร่วม ASEAN 2015 ของประเทศไทยด้วยค่ะ นับว่างานครั้งนี้เป็นประโยชน์อย่างมากแก่น้องๆผู้สนใจศึกษาต่อต่างประเทศค่ะ เพราะว่าทาง University of Tasmania ได้มอบทุนการศึกษา แก่นักศึกษาที่มีเกรดเฉลี่ย 2.8 ขึ้นไป สำหรับเรียนต่อที่ University of Tasmania ด้วยค่ะ

    สำหรับน้องๆ ท่านใด ที่ไม่สามารถเข้าร่วมงานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับทุนการศึกษาของ University of Tasmania ได้ที่พี่ฝ้าย 094-4796544 นะคะ
    หรือ  Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

    ทุนการศึกษายังรอน้องๆ อยู่ รีบๆ กันหน่อยนะคะ

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

     

  • University of Tasmania, Australia (UTAS)

    University of Tasmania, Australia (UTAS)

    [column col=”1/2″]

    สวัสดีค่ะ น้องๆ วันนี้พี่ฝ้ายมีข่าวทุนดีๆ มาฝากค่ะ

    University of Tasmania, Australia

    ให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยในปีการศึกษา 2012/2013
    แค่น้องๆมีเกรดเฉลี่ย 2.8 ขึ้นไป รับทันที ทุน 25%
    โดยน้องๆที่ผ่านเกณฑ์จะได้รับทุนการศึกษา
    เป็นจำนวน 25% ของค่าเล่าเรียนทั้งหมดค่ะ

    [/column]
    [column col=”1/2″]

    [/column]

    คุณสมบัติผู้สมัครผู้รับทุน
    GPA 2.8 ขึ้นไป

    ประมาณการค่าใช้จ่าย
    สำหรับปริญญาโท หลักสูตร 1 ปี
    ค่าเล่าเรียน AUD 22,563
    รับทุน 25% – AUD 5,640.75
    ค่าเล่าเรียนคงเหลือ AUD 16,922.25 (ประมาณ 524,589.75 บาท ตลอดหลักสูตร)
    ค่าที่พักและอาหาร THB 30,000 – 35,000/ เดือน (ที่พักของมหาวิทยาลัย Shared Accommodation)

    University of Tasmania น่าสนใจแค่ไหน พี่ฝ้ายจะมาเล่าให้ฟังค่ะ

    เนื่องจากเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาพี่ฝ้ายได้มีโอกาสไปออสเตรเลียอีกครั้ง และได้ไปเยี่ยม University of Tasmania มาค่ะ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง Hobart เมืองหลวงของ Tasmania ค่ะ ก้าวแรกที่ออกจากสนามบิน Hobart ก็รู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติของเมืองนี้จริงๆค่ะ เพราะเมืองเต็มไปด้วยต้นไม้และทุ่งหญ้าหลายหลากสี และมีภูเขาเป็นฉากหลังทัศนียภาพตลอดเส้นทาง

    ทัสมาเนีย ขึ้นชื่อว่าเป็นรัฐที่มีความเป็นธรรมชาติเยอะที่สุดในประเทศออสเตรเลียค่ะ รวมถึงสภาพอากาศที่เย็นตลอดทั้งปี เพราะเมืองเป็นเกาะทางใต้ของประเทศออสเตรเลีย

    University of Tasmania (UTAS) เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาล ที่มีความเก่าแก่เป็น อันดับที่ 4 ของประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่บนเกาะที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ และได้รับการขนานนามว่า เมืองแห่งประวัติศาสตร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ.1890 ปัจจุบันมีนักศึกษากว่า 25,000 คน โดยเป็นนักศึกษาต่างชาติกว่า 5,000 คน มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงที่โดดเด่นในด้านการค้นคว้า และงานวิจัย

    University of Tasmania มี 3 วิทยาเขต คือ Hobart, Launceston และ Burnie ในทัสมาเนีย ซึ่งพี่ได้ไปเยี่ยม วิทยาเขตหลักของเมือง Hobart ในเขต Sandy Bay มาค่ะ Hobart campus มีอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่มาก สามารถมองเห็น Derwent River และ Mount Wellington ได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ ซึ่งนับว่าเป็นทัศนียภาพที่สวยงามมากจริงๆ

    วิทยาเขตนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 5 นาทีโดยรถประจำทาง จึงง่ายในการเดินทางเข้าเมืองค่ะ เนื่องด้วยพื้นที่ของมหาวิทยาลัยค่อนข้างใหญ่และอยู่บนเนินเขา ทางเดินไปยังตึกต่างๆจึงยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ คือมีต้นไม้น้อยใหญ่ นานาพันธ์ หลากหลายสีตามทางเดินรอบๆมหาวิทยาลัยค่ะ ภายในมหาวิทยาลัยนั้นประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักศึกษามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ห้องสมุด bookstore ธนาคาร โรงอาหาร คาเฟ่ รวมถึงหอพัก on campus ที่มีหลายรูปแบบให้เลือก ซึ่งอยู่บริเวณติดกันค่ะ ห้องพักทุกห้องสามารถมองเห็นทิวทัศน์ชายทะเลได้อย่างชัดเจน

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]


    [/column]

    [space height=”15″]

    [column col=”1/2″]

    พามาเที่ยวในเมือง Hobart กันบ้างค่ะ Tourist Attraction ที่แรกที่ต้องพูดถึงเลยคือ Waterfront ค่ะ ที่เป็นเสมือน pier ไว้สำหรับขึ้นเรือไปเที่ยวยังที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Museum หรือ beach บริเวญรอบๆ pier นั้นยังมีร้านอาหารทะเลมากมายที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาลิ้มลองอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยและสดมากของทัสมาเนียเลย คือ หอยนางรมทัสมาเนียที่สดมากและราคาไม่แพงด้วยค่ะ

    ถัดไปอีกไม่ไกล ก้อจะเป็น Salamanca market ที่เปิดเฉพาะวันเสาร์ ตลาดนัด Local ของเมือง Hobart       ที่บรรดาเหล่าชาวสวนชาวไร่ได้นำเอาผลไม้จากฟาร์มตัวเองมาขายในราคาถูกๆ อีกทั้งรสชาติยังอร่อยและสดมากอีกด้วยค่ะ อีกทั้งยังมีขนมปัง ขนมท้องถิ่น ผลไม้กวน ที่ชาวบ้านได้นำมาขายแก่นักท่องเที่ยว รสชาติอร่อยค่ะ รวมถึงสินค้าที่เป็นที่นิยม คือน้ำผึ้งและ lavender ค่ะ ถ้าน้องๆได้มีโอกาสไปเที่ยว พี่ขอแนะนำให้ไปแวะชิม ช้อปที่ตลาด Salamanca นี้ค่ะ เพราะถือว่าเป็น best tourist attraction ของเมือง Hobart เลยค่ะ

     [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”15″]
    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    รูปสุดท้ายนี้ พี่ได้ไปเจอน้องๆคนไทยที่ตอนนี้ได้เรียนปริญญาโทอยู่ที่ University of Tasmania นะคะ น้องๆประทับใจกับมหาวิทยาลัยมากค่ะ รวมทั้ง น้องๆยืนยันว่า คนไทยไม่เยอะ ทำให้การปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษของน้องๆดีขึ้นมากค่ะ

    [/column]

    [space height=”15″]
    หากน้องๆคนไหน สนใจ University of Tasmania อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรที่เปิดสอน ทุนการศึกษา และรายละเอียดอื่นๆเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย สามารถโทรมาปรึกษาพี่ฝ้าย 094-4796544 ได้เลยนะคะ
    หรือ Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714