testimonials “น้องปิ่ณ” De Montfort University ,UK

วันนี้พี่แพ็ตตี้ขอแนะนำ ”น้องปิ่ณ” สาวสวย คิดบวก สุดชิค ที่กำลังดังในโลกโซเชียลอย่างมาก จากการรีวิวทรงผมต่างๆ ตั้งแต่ตอนที่ตัวน้องเองต้องประสบกับสภาวะผมร่วงเนื่องจากเป็นผลข้างเคียงของการให้คีโม จากนั้นน้องก็เริ่มใส่วิกมากมายหลายทรง จนกระทั่งตอนนี้ผมน้องปิ่ณก็ยาวแล้วค่ะ กระทู้ของน้องปิ่ณที่ pantip.com ว่า “รีวิวทรงผมตั้งแต่ยาว จนหัวล้าน ใส่สารพัดวิก จนผมกลับมาขึ้นใหม่” (pantip.com/topic/32540450) เป็นกระทู้ตั้งขึ้นเพื่อจะให้กำลังใจเพื่อนๆโดยเฉพาะผู้หญิงหลายๆคนที่อยู่ระหว่างการรักษาตัวจากการทำเคมีบำบัดค่ะ
น้องปิ่ณเป็นนักเรียนที่พี่แพ็ตตี้ได้มีโอกาสดูแล ให้คำปรึกษาส่งไปเรียนต่อที่ต่างประเทศด้วยนะคะ พี่แพ็ตตี้จึงขออนุญาตนำเรื่องดีๆจากประสบการณ์ตรงของน้องปิ่ณท่านนี้ มาแชร์ให้ทุกๆท่านได้ทราบเคล็ดลับวิธีคิดบวกยังไงให้พิชิตเจ้าโรคร้ายได้กันค่ะ

“ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว” “ทุกข์สุขอยู่ที่ใจ” “หากใจแข็งแกร่งก็สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆได้” etc ..
คำพูดเหล่านี้ดูจะไม่ได้เป็นเพียงแค่ถ้อยคำหรือประโยคที่สร้างกำลังใจให้กับคนที่ท้อแท้สิ้นหวังเท่านั้นนะคะ หากแต่วันนี้มีหนึ่งในผู้ที่สามารถพิสูจน์ทฤษฎีนี้ว่าได้ผลจริง เมื่อมีจิตใจที่ดีและเข้มแข็ง ประกอบกับเป็นคนมองโลกแง่บวกและยิ้มสู้ปัญหาเสมอ ร่างกายที่ดูเหมือนจะอ่อนแอก็สามารถกลับมาแข็งแรงได้ในระยะเวลาไม่นาน นับว่าเป็นอีกเรื่องมหัศจรรย์และจะเรียกว่าปาฏิหารย์ก็จะไม่แปลก แต่จริงๆแล้วมันคือผลพวงมาจากจิตใจที่เข้มแข็งจริงๆค่ะ

[column col=”1/2″]

 

วันนี้พี่แพ็ตตี้ขอแนะนำ ”น้องปิ่ณ” สาวสวย คิดบวก สุดชิค ที่กำลังดังในโลกโซเชียลอย่างมาก จากการรีวิวทรงผมต่างๆ ตั้งแต่ตอนที่ตัวน้องเองต้องประสบกับสภาวะผมร่วงเนื่องจากเป็นผลข้างเคียงของการให้คีโม จากนั้นน้องก็เริ่มใส่วิกมากมายหลายทรง จนกระทั่งตอนนี้ผมน้องปิ่ณก็ยาวแล้วค่ะ กระทู้ของน้องปิ่ณที่ pantip.com ว่า “รีวิวทรงผมตั้งแต่ยาว จนหัวล้าน ใส่สารพัดวิก จนผมกลับมาขึ้นใหม่” (pantip.com/topic/32540450) เป็นกระทู้ตั้งขึ้นเพื่อจะให้กำลังใจเพื่อนๆโดยเฉพาะผู้หญิงหลายๆคนที่อยู่ระหว่างการรักษาตัวจากการทำเคมีบำบัดค่ะ

[/column]

[column col=”1/2″]

[/column]

[space height=”15″]

น้องปิ่ณเป็นนักเรียนที่พี่แพ็ตตี้ได้มีโอกาสดูแล ให้คำปรึกษาส่งไปเรียนต่อที่ต่างประเทศด้วยนะคะ พี่แพ็ตตี้จึงขออนุญาตนำเรื่องดีๆจากประสบการณ์ตรงของน้องปิ่ณท่านนี้ มาแชร์ให้ทุกๆท่านได้ทราบเคล็ดลับวิธีคิดบวกยังไงให้พิชิตเจ้าโรคร้ายได้กันค่ะ

[column col=”1/2″]

[/column]
[column col=”1/2″]

น้องปิ่ณเองเริ่มทราบว่าตัวเองเป็นมะเร็งในช่วงที่กำลังจะไปเรียนต่อที่อังกฤษพอดี โดยได้ทำเรื่องการสมัครเรียน จนได้รับใบตอบรับจากทางมหาวิทยาลัยเรียบร้อย พร้อมเดินทางแล้วด้วยซ้ำ แต่ก็ตั้งพักไว้ก่อน และหลังจากพักรักษาตัวจนตอนนี้หายดีแล้ว น้องปิ่ณจึงตัดสินใจเดินทางไปเรียนต่อตามที่ตั้งใจไว้ค่ะ

น้องปิ่ณได้อัพเดทเรื่องราวต่างๆ ในการใช้ชีวิตนักศึกษาปริญญาโทในอังกฤษไว้ด้วยนะคะ บรรยากาศถึงการเรียนการสอน กิจกรรมต่างๆของมหาวิทยาลัย เพื่อนๆที่น่ารัก ฯลฯ แถมน้องปิ่ณยังไฟเขียวให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่สนใจจะไปเรียนที่ DMU (De Montfort University) ที่อังกฤษที่เดียวกันกับน้องปิ่ณนี้ แล้วอยากทำความรู้จักเป็นเพื่อนกันแล้วล่ะก็ น้องปิ่ณก็ยินดีค่ะ ^.^

[/column]

[space height=”15″]

วันนี้พี่แพ็ตตี้เลยขอหยิบความประทับใจใน DMU ของน้องปิ่ณมาฝากให้น้องๆได้อ่านไว้เป็นแนวทางกันนะคะ เผื่อว่าใครที่กำลังคิดเลือกมหาวิทยาลัยในอังกฤษเพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาตรี/โท/เอก จะได้มีไอเดียและทางเลือกเพิ่มขึ้นค่ะ และหากมีคำถามอื่นใดเกี่ยวกับเรื่องการเสมัครเรียนหรือเรื่องอื่นๆนั้น พี่แพ็ตตี้ก็พร้อมจะช่วยแนะนำเสมอนะคะ

Testimonial จาก น้องปิ่ณ กวิสรา ตีรณสาร
De Montfort University 

[column col=”1/2″]
ตั้งแต่เรียนที่นี่รู้สึกหลงรักมหาวิทยาลัยนี้มากขึ้นทุกวัน นอกจากเรื่องวิชาการที่ดีแล้วหนึ่งคือบุคลากรดีมาก อาจารย์เจ้าหน้าที่ทุกคนพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ ไม่มีใครเหวี่ยงใส่ ขนาดผอ.มหาลัยยังลงมาทำงานแทบจะทุกหน้าที่ด้วยตัวเอง เห็นวิ่งวุ่นตลอด มีอะไรเข้าไปถามเขาได้เลย นิสัยดีมาก ที่นี่จะรับฟังและให้คำปรึกษานักเรียนทุกอย่าง คุยได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่ช่วยทำวีซ่า เชงเก้น ยันแม้กระทั่งเหงา คิดถึงบ้าน ทะเลาะกับแฟน ท้อง ฯลฯ คือนอกจากแพทย์ประจำแล้วยังมีจิตแพทย์อีกอะ คือถ้าจิตตกเมื่อไหร่ เดินไปหาจิตแพทย์ได้ทันที 5555

ทุนก็มีเยอะมาก ให้บ่อย มีปัญหาเรื่องการเงินก็ถามเขาได้

มีพาไปทัศนศึกษาประมาณสองเดือนครั้ง ฟรีหมดทุกอย่าง นั่งรถบัสไปเมืองอื่นๆ เที่ยวตามใจชอบ ถึงเวลานัดก็กลับมารวมกลุ่ม หรือสมมติว่าทำทีซิสแล้วต้องไปดูงานที่ลอนดอน มหาลัยก็ซัพพอร์ตค่ารถให้ไปดูงานฟรีๆเลย

[/column]

[column col=”1/2″]

[/column]

[space height=”15″]

ที่ต่างกับไทยมากๆอย่างหนึ่งคือ มีบาร์และคาราโอเกะ(ทุกวันอังคาร)ในมหาลัย! จริงจังไม่โม้ คือช่วงเฟรชชี่วีคนี่นางจะเอ็นเตอร์เทรนมาก ช่วงกลางวันก็จะเป็นช่วงแนะนำเมือง มีสาระหน่อยๆ แต่กลางคืนก็คือมีปาร์ตี้เกือบทุกวัน นอกจากปาร์ตี้ในมหาลัยแล้วก็ยังจะมีปาร์ตี้ที่นักศึกษาช่วยกันจัด ไปคลับนู้นคลับนี้ เรียกว่าเฮฮาปาจิงโกะมาก ข้อดีคือได้พบเพื่อนใหม่ตลอด แล้วเพื่อนก็ดีมากด้วย มีครบทุกเชื่อชาติเลย คือทุกคนมาปาร์ตี้ มาเพื่อสนุกมาพบเพื่อนใหม่ หลายคนไม่ได้ดื่มด้วยซ้ำ(เราก็ไม่ดื่ม) แล้วคือปลอดภัยเพราะบุคลากรในมหาลัยจัดเอง เวลากลับดึก เพื่อนๆก็พร้อมใจพากันเดินไปเป็นเพื่อนส่งที่หอ ซึ่งหอก็ดีมาก และปลอดภัยมากๆ บอกเลยมีความสุข ยังไม่อยากกลับง่ายๆ 555555 

Author: admin

Exit Education ศูนย์ศึกษาต่อต่างประเทศครบวงจร สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 094-479-6544