Tag: เรียนต่อออสเตรเลีย

  • Perth, Australia

    Perth, Australia

    Perth, Australia  (เพริ์ท) 

    Perth เมืองหลวงของรัฐ Western Australia  เป็นเมืองแห่งการเจริญเติบโต ความสำเร็จ และโอกาส ในระยะเวลาที่ผ่านมาเพียงไม่นานทำให้เห็นได้ว่าการเติบโตแบบก้าวกระโดดของเมือง ซึ่งส่งผลดีต่อทุกๆด้าน ตั้งแต่การศึกษา การทำงาน การเดินทาง การท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวนับหมื่นที่มาเยี่ยมชมธรรมชาติที่สวยงามและเพลิดเพลินไปกับแสงแดดอบอุ่นที่มีตลอดปีในรัฐ Western Australia สนามบินนานาชาติแห่งใหม่ สนามกีฬา Perth Arena และการขยายโครงข่าย City Rail ตลอดจนการพัฒนาฝั่งแม่น้ำและพื้นที่ชายหาด ทำให้ Perth กลายเป็นประตูของการท่องเที่ยวและการลงทุนในประเทศออสเตรเลียฝั่งตะวันตก 

    เมือง Perth นั้นให้ความสำคัญกับการสร้างความดุลระหว่างการทำงานกับการพักผ่อน โดยใจกลางเมืองคือศูนย์กลางธุรกิจ รวบรวมภัตตตาคาร คลับ บาร์ รายล้อมไปด้วยสถานบันเทิงที่ให้บรรยากาศสบายๆ ทั้งดนตรี โรงละคร งานเทศกาล โรงภาพยนต์ อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากย่านพักอาศัยที่เงียบสงบและปลอดภัย แม่น้ำ Swan ท่าเรือประวัติศาสตร์ Fremantle และสวนพฤกษศาสตร์ King’s Park Botanic Gardens คือแหล่งนันทนาการกลางแจ้งประจำเมือง นอกเหนือจากนี้ ชายหาดที่ Perth ยังกว้างขวางและบริสุทธิ์ 

    ด้านการศึกษา

    Perth มีสถาบันการศึกษาชั้นนำที่มีประวัติโดดเด่นตั้งอยู่มากมาย เนื่องจากเป็นเมืองที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จึงดึงดูดคณาจารย์และนักวิชาการชั้นแนวหน้าจากทุกมุมโลก อีกทั้งงานวิจัยที่ทำใน Perthได้รับการยกย่องจากทั่วโลก องค์ความรู้ขยายขอบเขตใหม่ในด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ เกษตรกรรม เคมี ธรณีวิทยา โลหวิทยา วิศวกรรม  ดาราฟิสิกส์ พลังงานหมุนเวียน และการจัดการสิ่งแวดล้อม ศิลปิน นักดนตีและนักแสดงของเพิร์ทมีชื่อเสียงระดับโลก ทำให้นอกจากจะได้เรียนจากหลักสูตรที่มีมาตรฐาน และได้รับประสบการณ์ในการเรียนรู้แล้ว แต่ยังได้โอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งของแวดวงวิชาการที่กำลังเติบโตและเครือข่ายมืออาชีพอีกด้วย

    สถาบันการศึกษาในเมือง Perth

    University

    • Curtin University
    • Edith Cowan University
    • Murdoch University
    • The University of Notre Dame Australia
    • The University of Western Australia

    [space height=”15″]

    English Language & Vocational College

    • Perth International College of English (P.I.C.E.)
    • Phoenix Academy
    • The University of Western Australia Centre for English Language Teaching
    • Kaplan International College Perth
    • Le Cordon Bleu Australia

    [space height=”15″]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”10″]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”10″]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”10″]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”10″]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

     

    สอบถามข้อมูลเรียนต่อออสเตรเลียเพิ่มเติม
    พี่เหมียว 080-5548859
    พี่สุ 098-2619915
    พี่ฝ้าย 094-4796544
    หรือ Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

  • กลุ่มมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของประเทศออสเตรเลีย หรือ Group of Eight (Go8)

    กลุ่มมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของประเทศออสเตรเลีย หรือ Group of Eight (Go8)

    น้องๆ หลายคนที่กำลังหาข้อมูลเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ประเทศออสเตรเลีย คงเคยได้ยินคำว่า Group of Eight กันบ้างนะคะ วันนี้ พี่ๆ Exit จะมาขยายความให้ค่ะ ว่า Group of Eight อะไรคือ แล้วเกี่ยวข้องอย่างไรกับการเรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศออสเตรเลีย

    กลุ่มมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของประเทศออสเตรเลีย หรือ Group of Eight (Go8) คือการรวมกลุ่มกันของมหาวิทยาลัยที่เป็นเลิศทางด้านวิชาการ การสอน และการวิจัย ซึ่งแแต่ละมหาวิทยาลัยล้วนมีชื่อเสียงระดับชั้นนำของประเทศ ทั้งยังมีการแข่งขันสูงที่สุดอีกด้วย

    มหาวิทยาลัย Group of Eight มีสมาชิกในเครือข่ายดังนี้

    1. The University of Western Australia (UWA)
    2. The Australian National University (ANU)
    3. The University of Sydney
    4. The University of Melbourne
    5. University of Queensland
    6. Monash University
    7. The University of New South Wales (UNSW)
    8. University of Adelaide
    [space height=”15″]

     

    มหาวิทยาลัยทั้ง 8 นั้น มีคุณภาพทางด้านการสอนที่สุดของประเทศออสเตรเลีย โดยแต่ละมหาวิทยาลัยต่างมีจุดเด่นทางด้านวิชาการแตกต่างกันออกไป ซึ่งล้วนแต่เป็นที่ยอมรับของระบบอุดมศึกษาของโลก หลายคนคงกำลังตัดสินใจว่าอยากไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยไหนดี มหาวิทยาลัยทั้ง 8 ของ Group of Eight  นี้เป็นสุดยอดทางเลือก ที่การันตีด้วยชื่อเสียงและคุณภาพเลยค่ะ

    ข้อมูลเพิ่มเติม www.go8.edu.au

    สอบถามข้อมูลเรียนต่อออสเตรเลียเพิ่มเติม 
    พี่เหมียว 080-5548859
    พี่สุ 098-2619915
    พี่ฝ้าย 094-4796544
    หรือ Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

  • testimonials ดร.ใยแก้ว ศีลรักษ์ ปริญญาเอกทางด้านกฎหมาย La Trobe University, Australia

    testimonials ดร.ใยแก้ว ศีลรักษ์ ปริญญาเอกทางด้านกฎหมาย La Trobe University, Australia

    [column col=”1/2″]

    [/column]
    [column col=”1/2″]

    ดร. ใยแก้ว ศีลรักษ์
    ปริญญาเอกทางด้านกฎหมาย
    La Trobe University, Australia

    ขอแสดงความยินดีกับด็อกเตอร์คนใหม่ ดร.ใยแก้ว พี่เหมียวดีใจและภูมิใจมากๆ และต้องขอขอบคุณ น้องใยที่ไว้วางใจให้พี่ ได้ดูแล ตั้งแต่เรียนปริญญาโท จนเรียนจบปริญญาเอก น้องใยนอกจากจะเก่ง สวย ยังมีอุดมคติที่ดีมากๆ เป็นที่รักของเพื่อนๆน้องๆ เพราะน้องใยจะให้ความช่วยเหลือทุกๆคน ที่ใกล้ชิด กว่าจะเรียนจบได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่น้องใยก็สู้และอดทนจนในที่สุดก็ได้เป็นด็อกเตอร์ตั้งแต่อายุไม่มาก วงการการศึกษากฎหมายของประเทศไทย ได้คนเก่งคนดี มีความสามารถมาเพิ่มอีกคน

    [/column]

    [space height=”15″]
    ชื่อ ใยแก้ว ศีลรักษ์ ค่ะ ตอนนี้จบปริญญาเอกทางด้านกฎหมาย จาก La Trobe University, Melbourne Australia ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาเกือบ 6 ปี บอกเลยว่าเป็นช่วงชีวิตที่น่าจดจำมากค่ะ ได้ประสบการณ์ในชีวิตมากมาย ทั้งด้านการศึกษา ภาษา มุมมองความคิด การใช้ชีวิต และเพื่อน

    ในเรื่องการศึกษา ใยเริ่มต้นจากการเรียนภาษา จากนั้นต่อปริญญาโททางด้านกฎหมายที่ La Trobe University และตามด้วยปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ตามลำดับค่ะ การเรียนที่นี่แตกต่างจากเมืองไทยตรงที่เน้นให้เราศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง จึงต้องมีความรับผิดชอบ ถึงแม้ว่าระหว่างที่เรียนมันจะหนักมาก เพราะต้องอ่านหนังสือเยอะ แต่เราก็ได้ทักษะในการสืบค้น การวางแผนการเรียน การเอาชนะใจตนเอง ไม่ย่อท้อ สำหรับน้องๆ ที่จะมาเรียนก็ฝากไว้ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่แค่เอื้อมนะคะ สู้ และสู้ และสู้ ค่ะ”

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”15″]

    ในเรื่องการใช้ชีวิต ด้วยความที่ไม่ใช่เมืองไทย เราต้องปรับตัวบ้าง ทั้งในเรื่องอาหาร และอากาศ แต่ดีที่เมลเบิร์นเองเป็นเมืองน่าอยู่ สงบ ฝรั่งใจดี ร้านอาหารไทย จีน เกาหลี เยอะ จึงทำให้ไม่ยากมากในการปรับตัว แล้วยังกลับกลายเป็นสนุกกับรสชาติอาหารนานาชาติ อร่อยอย่าบอกใครเลย แม้อากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย แต่ก็ไม่ได้หนาวจัด ฝนตกบ้างประปราย แต่ก็ทำให้สนุกกับแฟชั่น 3 ฤดูใน 1 วันมากค่ะ

    “เพื่อน” ด้วยการมาเรียน มาใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกทำให้เราห่างจากครอบครัว เพื่อนที่นี่จึงเป็นทั้งเพื่อนและครอบครัวไปด้วย เพื่อนที่นี่ทุกคนน่ารักค่ะ ทุกคนมีความฝัน และทุกคนตั้งใจเรียนมาก จึงเหมือนช่วยเป็นแรงผลักดันให้จบไปด้วยกัน แม้กลับมาเมืองไทยแล้วเราก็ยังติดต่อกันทั้งเพื่อนคนไทยและต่างชาติ เรายังเป็นเพื่อนกัน เหมือนมิตรภาพเราไม่จางไปเลย

    สุดท้ายนี้ ถ้าน้องๆ คนไหนสนใจ นอกจากการเตรียมความพร้อมในเรื่องภาษาอังกฤษแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ เราต้อง มี agency ดีๆ ค่ะ เพราะเห็นหลายคนได้ agency ไม่ดีก็แย่ไปเหมือนกันนะคะ เพราะระหว่างเรียนจะเจอปัญหาที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ แต่ใยโชคดีค่ะ ที่เจอ พี่เหมียว Exit Education นอกจากพี่เหมียว จะช่วยเรื่องวีซ่า ติดต่อมหาวิทยาลัยแล้ว ยังเป็นทั้งพื่อน ที่ปรึกษา และเป็นแรงเชียร์ที่ดี ถือโอกาสนี้ ขอบคุณพี่เหมียวมากๆ นะคะ การศึกษาต่อต่างประเทศให้มากกว่าที่คิดจริงๆ ค่ะ 

    [space height=”15″]

    พี่เหมียว และ ทีมงาน Exit Education ขอให้น้องใยประสบความสำเร็จในทุกสิ่ง ได้ใช้ความรู้ความสามารถ ทำประโยชน์แก่ตัวเองและประเทศนะคะ

    [column col=”1/3″]

    [/column]
    [column col=”2/3″]

    น้องๆ ที่สนใจเรียนต่อต่างประเทศ อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม
    ติดต่อ พี่เหมียว ได้ที่ 080-5548859 นะคะ
    หรือ Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

    “Exit Education เรายินดีให้บริการด้วยรอยยิ้มและความจริงใจ”
    [/column]

  • การตรวจสุขภาพเพื่อการยื่นคำร้องขอวีซ่าออสเตรเลีย

    การตรวจสุขภาพเพื่อการยื่นคำร้องขอวีซ่าออสเตรเลีย

    [column col=”1/2″]

    หลังจากรีวิวที่แล้วพี่เหมียวได้แนะนำเกี่ยวกับการขอใบรับรองผลการตรวจสุขภาพจาก IOM เพื่อการยื่นคำร้องขอวีซ่าอังกฤษไปนั้น (www.exiteducation.com/review/ตรวจสุขภาพ-iom-student-visa-uk) มีน้องๆสอบถามเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพ เพื่อการยื่นคำร้องขอวีซ่าออสเตรเลียกันหลายคนเลยค่ะ วันนี้พี่เหมียวขอเอามารีวิวให้ฟังเพิ่มเติมนะคะ

    น้องๆที่ต้องการไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลีย ในทุกหลักสูตร ทั้งหลักสูตรภาษาอังกฤษระยะสั้น เรียนระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา วิชาชีพ วิทยาลัย จนถึงระดับมหาวิทยาลัย โดยระยะเวลาการเรียนเกิน 12 สัปดาห์ จำเป็นต้องขอวีซ่านักเรียน โดยจะต้องตรวจสุขภาพ 2 อย่าง คือ

    1. เอ็กซเรย์ปอด
    2. ตรวจปัสสาวะ

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”15″]

    เมื่อก่อนนักเรียนทุกคนจะต้องกรอก Form 26 และ 126 ในการไปตรวจสุขภาพ
 แต่ปัจจุบันนี้เป็น eMedical

    หลังจาก submit วีซ่าเรียบร้อยแล้ว เข้าระบบ https://online.immi.gov.au/lusc/login  เลือกเมนู Get health details เพื่อลงทะเบียนแบบฟอร์มใบตรวจสุขภาพ

    ** โดยในขั้นตอนการวีซ่าและการลงทะเบียนแบบฟอร์มใบตรวจสุขภาพนี้ ทาง Exit Education จะดำเนินการให้หมดเลยค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง พี่เหมียวเอามาให้ดูเผื่อน้องๆ เก็บไว้เป็นข้อมูลเหมือนเช่นเคยค่ะ ^^

    เมื่อเสร็จแล้วจะได้ HAP ID – eMedical ให้ print และนำไปวันตรวจสุภาพค่ะ

    ตัวอย่าง eMedical

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”15″]

    เอกสารที่ต้องเตรียมในการตรวจสุขภาพ

    1. แบบฟร์อม eMedical ที่มีชื่อนามสกุลของผู้สมัคร เเละ HAP ID
    2. หนังสือเดินทาง (Passport) ฉบับจริง
    3. บัตรประชาชนตัวจริง
    4. ค่าตรวจสุขภาพประมาณ 2,000 – 3,000 บาท (ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาล)

    [space height=”15″]

    เมื่อตรวจสุขภาพเสร็จจะต้องรอผลตรวจประมาณ 40 นาที เมื่อคุณหมอแจ้งว่าเรียบร้อยสามารถกลับบ้านได้เลย และกรุณาเก็บใบเสร็จไว้เป็นหลักฐาน ทางโรงพยาบาลจะส่งข้อมูลของนักเรียนเข้าสถานฑูตโดยตรง หลังจากตรวจสุขภาพถ้าผลปกติ จะได้วีซ่าภายใน 3-7 วัน แล้วแต่ประเภทของวีซ่า ถ้าหากผลตรวจสุขภาพไม่ปกติ อาจจะโดนส่งผลไปที่ประเทศออสเตรเลียเพื่อให้พิจารณา กรณีที่โดนส่งผลไปให้ออสเตรเลียพิจารณา จะต้องให้ระยะเวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ ทางออสเตรเลียอาจจะให้ตรวจเพิ่มเติม หรือให้ผ่าน และจะได้วีซ่าในลำดับต่อไป (ขึ้นอยู่กับผลของแต่ละบุคคล)

    คำแนะนำเพิ่มเติมในการตรวจสุขภาพ

    • ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
    • นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
    • ไม่ควรดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล งดของทอด ของมันจัด ก่อนไปตรวจ
    • ไม่จำเป็นต้องงด อาหารและน้ำ
    • สำหรับสตรี หากมีประจำเดือนควรตรวจหลังจากประจำเดือนหมดไปแล้วอย่างน้อย 5 วัน
    • สถานทูตจะให้ตรวจสุขภาพทั่วไป ตรวจปัสสาวะ ตรวจปอด และตรวจสายตา
    • หากตั้งครรภ์ต้องแจ้งให้คุณหมอทราบ
    • หากใส่เเว่นหรือคอนแทคเลนส์ให้นำไปในวันตรวจสุขภาพด้วยและต้องแจ้งคุณหมอทราบ
    • หากไม่สบาย ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ ทานยารักษาอยู่ ควรรอให้หายขาดก่อนไปตรวจ
    • ควรโทรไปนัดล่วงหน้าก่อนไปตรวจ และแจ้งโรงพยาบาลว่ามาตรวจสุขภาพ “เพื่อขอวีซ่านักเรียนประเทศออสเตรเลีย”
    • เมื่อตรวจเสร็จแล้วกรุณาเก็บใบเสร็จเพื่อเป็นหลักฐาน

    [space height=”15″]

    รายชื่อโรงพยาบาลที่สถานทูตรองรับ

    การตรวจสุขภาพของผู้ขอวีซ่าจะต้องกระทำโดยแพทย์ / โรงพยาบาลที่อยู่ในรายชื่อที่อนุมัติโดยแผนกวีซ่าของสถานทูตออสเตรเลียเท่านั้น โดยผลการตรวจสุขภาพทางโรงพยาบาลจะเป็นผู้จัดส่งให้สถานทูตโดยตรง

    รายชื่อโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ

    [column col=”1/2″]

    1. โรงพยาบาลกรุงเทพ (BH)

    เลขที่ 2 ซอยศูนย์วิจัย 7 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพ ฯ 10310
    Tel :  02-310-3256
    Website : www.bangkokhospital.com
    ค่าบริการ : 2,000-3,000 บาท
    เวลาทำการ : วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.00 – 14.00 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 08.00 – 12.00 น.
    *กรุณาโทรนัดหมายล่วงหน้า อย่างน้อย 1 วัน

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”15″]

    [column col=”1/2″]

    2. โรงพยาบาลบางกอกเนอร์สซิ่งโฮม ( BNH )

    เลขที่ 9/1 ซอยคอนแวนต์ ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพ ฯ 10500
    Tel : 02-686-2700 ต่อ 4445 (ศูนย์ตรวจสุขภาพ ชั้น 4 ขึ้นลิฟท์โซน A)
    Website : www.bnhhospital.com
    ค่าบริการ : 3,000-4,000 บาท
    วันและเวลาทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00 – 16.00 น. เสาร์ เวลา 8.00 – 12.00 น.

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”HEIGHT”]

    รายชื่อโรงพยาบาลสำหรับต่างจังหวัด
    (ดูรายชื่อโรงพยาบาล ได้ที่ http://www.immi.gov.au/contacts/overseas/t/thailand/panel-doctors.htm)

    1. โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม
    8 ถนนบุญเรืองฤทธิ์ อ.เมือง เชียงใหม่ 502008 ถนนบุญเรืองฤทธิ์ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
    Tel : 053 920 300
    Fax : 053 224 880
    Website : www.chiangmairam.com
    ราคาโดยประมาณ 1,500-2,000 บาท
    เวลาทำการ (ทุกวัน เวลา 08.00 – 16.00 น.)

    2. โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
    2/1 ถนนหงส์หยกอุทิศ อ.เมือง ภูเก็ต 83000
    Tel : +66 76 254 421
    Fax : +66 76 254 430
    Website : www.phukethospital.com
    ราคาโดยประมาณ 4,000-5,000 บาท
    เวลาทำการ : วันจันทร์, อังคาร, พุธ และศุกร์ เวลา 09.00 – 14.00 น.

    3. โรงพยาบาลเอกอุดร
    555/5 ถนนโพศรี ตำบลหมากแข้ง อุดรธานี 41000
    Tel : 042 342 555
    Fax : 042 341 033
    Website : www.aekudon.com
    ราคาโดยประมาณ 3,000 – 4,000 บาท
    เวลาทำการ : ทุกวัน (ยกเว้นวันเสาร์) แนะนำให้มาช่วงเช้า 08.00 – ก่อนเที่ยง

     

    [column col=”1/3″]

    [/column]
    [column col=”2/3″]
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
    ติดต่อ พี่เหมียว (จงดี อิ่มโอชา) ได้ที่ 080-5548859 ค่ะ

    หรือ Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714
    [/column]

  • ออสเตรเลีย ทำงาน Part time 40 ชั่วโมง/2สัปดาห์ และมีสิทธิ์ได้รับ “Working Visa” ระยะเวลา2 ปีเป็นอย่างน้อย

    ออสเตรเลีย ทำงาน Part time 40 ชั่วโมง/2สัปดาห์ และมีสิทธิ์ได้รับ “Working Visa” ระยะเวลา2 ปีเป็นอย่างน้อย

    วันนี้พี่แพทตี้จะพาไปเที่ยวแดนโคอะล่าลั้ลลาจริงๆ … แดนจิงโจ้เค้าโก้จริงๆ!!

    แม้เมืองผู้ดีอังกฤษจะงดให้นักเรียนต่างชาติทำงาน Part timeแล้ว แต่ออสซี่ยัง Welcome everybody อยู่นะคะ

    “Commonwealth of Australia” เป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก มีเศรษฐกิจมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 12 ของโลก WOW!!

    •  ปี 2012-2014 ออสเตรเลียมีรายได้ต่อหัวที่สูงที่สุดอันดับ 5 ของโลก ดังนั้นออสเตรเลียจึงถูกจัดอันดับที่สูงในการเปรียบเทียบระหว่างประเทศจำนวนมากของประสิทธิภาพการทำงานในระดับชาติ เช่น คุณภาพชีวิต สุขภาพ การศึกษา เสรีภาพทางเศรษฐกิจ และการปกป้องเสรีภาพของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองอีกด้วย
    • ออสเตรเลียเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ, G20, เครือจักรภพแห่งชาติ, ANZUS, องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา(OECD), องค์การการค้าโลก, ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกและหมู่เกาะแปซิฟิกฟอรั่ม **นั่นหมายความว่าออสเตรเลียต่างเข้าร่วมเป็นสมาชิกทั้งทางยุโรปและเอเชียอีกด้วย ทำให้ออสเตรเลียคุ้นชินกับการที่มีนักเรียนต่างชาติเข้ามาศึกษาที่นี่ ไม่มีการเหยียดสีผิวหรือเชื้อชาติใดใดทั้งสิ้น หรือถ้ามีก็เป็นส่วนน้อยมากๆ และออสเตรเลียยังสนับสนุนส่งเสริมแรงงานและบุคคลากรต่างชาติที่เข้ามาทำงานที่นี่อย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย
    • โอกาสการทำงานในออสเตรเลีย
      • นักเรียนไทยที่ลงเรียนหลักสูตรใดก็ตาม ตั้งแต่ระยะเวลา 4 เดือนขึ้นไป สามารถขอวีซ่าแบบ “Student Visa” สามารถทำงาน Part time 40 ชั่วโมง/2สัปดาห์ แบบถูกกฎหมาย
      • นักเรียนที่ลงเรียนหลักสูตรระดับ “Academic, Further Studies” ที่รวมระยะเวลาเป็น 2 ปีขึ้นไป มีสิทธิ์ได้รับการอนุมัติวีซ่าทำงาน “Working Visa” ระยะเวลา2 ปีเป็นอย่างน้อย (ขึ้นอยู่กับสาขาที่ลงเรียน) พูดง่ายๆ ว่าเรียนจบแล้วก็ยังอยู่ต่อได้ด้วยวีซ่าทำงานอีก 2 ปี แบบว่ายังหางานทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เค้าให้วีซ่าอัติโนมัติค่ะ หรือหากไม่อยากอยู่ต่อด้วยวีซ่าทำงาน ก็สามารถอยู่ต่อเที่ยวได้อีก 1 เดือนภายหลังจากเรียนจบก็ทำได้นะคะ ชิวสุดๆ
    • นักเรียนไทยยังอยู่ในระดับ Assessment Level 1 (AL 1) พูดให้เข้าใจง่ายๆ ชาวไทยเรายังอยู่ในระดับที่เทียบเท่ากับชาวยุโรป สิงคโปร์ ญี่ปุ่น คือพลเมืองประเทศชั้น 1 นั่นเอง
      • นักเรียนที่ลงเรียนระดับปริญญาตรี/โท/เอก ตอนยื่นขอวีซ่านักเรียนนั้น ไม่ต้องยื่นหลักฐานทางการเงิน (Financial Statement) ให้สถานทูตแต่อย่างใด
      • สามารถยื่นวีซ่าแบบ online ได้ ไม่ต้องไปยื่นด้วยตัวเอง หรือให้ตัวแทน/ที่ปรึกษาที่น่ารักอย่างพี่แพทตี้จัดการให้ รอประมาณ 3-7 วันทำการวีซ่าก็อนุมัติแล้วค่ะ
    • ที่สำคัญออสเตรเลียยังเปิดกว้างให้ชาวต่างชาติที่เข้ามาเรียน – ทำงานระยะยาว และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องทุกอย่าง อาทิ เสียภาษีถูกต้อง ลงเรียนในสาขาที่ตลาดเศรษฐกิจของออสเตรเลียกำลังต้องการ มีคุณวุฒิและวัยวุฒิตามที่รัฐกำหนด หรือพำนักอยู่ที่นั่นเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว รัฐบาลและสถานทูตออสเตรเลียยังเปิดกว้างให้ชาวต่างชาติสามารถสมัคร PR (Permanent Resident) คือขอเป็นประชากรพำนักที่ออสเตรเลียโดยสามารถถือ Passport 2 เล่ม ทั้ง Passport ไทย และ Passport ออสเตรเลีย ได้อีกด้วย!!
      PR เป็นบันไดขั้นต่อไปของ Australian Citizen ซึ่งขอให้เราปฎิบัติตามกฎหมายของออสเตรเลียทุกประการเท่านั้นเป็นพอค่ะ!! AWESOME!!

    [space height=”15″]

    สอบถามข้อมูลเรียนต่อออสเตรเลีย
    ติดต่อ Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

  • testimonials “น้องหญิง” MIB – University of Wollongong , Australia

    testimonials “น้องหญิง” MIB – University of Wollongong , Australia

    [column col=”1/2″]

    วันนี้พี่สุขอพูดถึงหลักสูตรปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ : Master of International Business – MIB เนื้อหา ของรายวิชา MIB มุ่งให้ผู้เรียน มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการบริหารทั้งด้านทฤษฏีและด้านปฏิบัติ รวมทั้งมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ มีทักษะและประสบการณ์การเรียน พร้อมสำหรับการทำงานและพัฒนาความรู้ในสาขาวิชาด้านการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ของโลกสังคมและวัฒนธรรม ที่มีความแตกต่างหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

    และพี่สุขอนำประสบการณ์ของ

    “น้องหญิง” ธิดารัตน์ วัชนะประพันธ์

    ที่เพิ่งจบการศึกษา MIB @ University of Wollongong, Australia มา share การเรียนและการใช้ชีวิตใน University of Wollongong ให้ฟังค่ะ

    [/column]

    [column col=”1/2″]

     

    [/column]

    เหตุผลที่เลือก Wollongong, Australia

     

    ความเป็นอยู่

    เหตุผลที่เลือกเรียนที่นี่เพราะชอบบรรยากาศค่ะ อากาศดีมาก เมืองติดทะเล เหมือนไปเที่ยวพักตากอากาศ ผู้คนไม่วุ่นวาย นักศึกษามหาวิทยาลัยก็หน้าตาดีค่ะ ฮ่าๆๆ

    [column col=”1/2″]

    สำหรับที่พัก หญิงอยู่ Campus East เป็น Uni Accommodation ที่นี่จะมีออสซี่อยู่เยอะค่ะ และมีกิจกรรมต่างๆให้เราทำ จะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมก็ได้ค่ะ การอยู่หอพักของมหาวิทยาลัยจะทำให้เรารู้จักเพื่อนจากหลายๆประเทศเยอะค่ะ และความปลอดภัยสูง

    เรื่องการท่องเที่ยว ที่เมืองนี้จะเน้นการท่องเที่ยวในเชิงธรรมชาติค่ะ สำหรับการเดินทางจะมี free shuttle bus ไว้บริการ วันไหนเบื่อๆ เราก็นั่งชมเมืองเล่นๆได้ค่ะ ที่สำคัญตัว free bus จะผ่านที่สำคัญของเมืองนะคะ อย่างเช่นมหาวิทยาลัย CBD หอสมุด หรือจะเป็น North beach หาดอันเลื่องชื่อของเมืองค่ะ ชาวออสซี่หรือแม้แต่ต่างชาติอย่างเราๆก็จะไปปิคนิค BBQ กัน ที่หาดค่ะ เพราะจะมีเตา BBQ ติดตั้งไว้ให้ตรงชายหาดค่ะ (คนที่นั้นจะเรียก BBQ ว่าบาร์บี้ นะคะ) มากันที่สภาพอากาศก็ชิวค่ะ ช่วงหนาวๆนี่ก็ประมาณ 8-16 องศา ซึ่งก็ไม่ทรมานมากค่ะ เพราะถึงจะหนาวก็จะมีแดดอ่อนๆให้ความอบอุ่นค่ะ

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”15″]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

     

    ด้านอาหารการกินคนที่ชอบอาหารไทยไม่อดตายแน่ค่ะ ร้านอาหารไทยมีบริการค่อนข้างเยอะ ลองนับคร่าวๆก็ประมาณ 6-7 ร้านที่สามารถเดินทางได้ด้วย free bus วันไหนอยากไป Sydney ก็สามารถนั่งรถไฟไปได้ประมาณ 1.30 ชั่วโมง สามารถโหลด Application ที่ชื่อ TripView ในการดูตารางรถรถไฟ ได้ค่ะ ความแม่นยำ 80-90% ถ้าเพื่อนๆต้องการบรรยากาศที่สงบเหมาะแก่การเรียน อากาศดีๆ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวออสเตรเลีย แนะนำเมือง Wollongong เลยค่ะ

    [/column]

    [space height=”15″]

    ด้านการเรียน

    หญิงเลือกเรียนกับ UOW เพราะมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงดีค่ะ โอกาศการจบมาหางานทำได้ 5ดาว เทคนิคการเรียนการสอนก็ถูกจัดอันดับอยู่ที่ 4-5 ดาว หญิงลงเรียนภาษากับทางศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัย ก่อน 6เดือนค่ะ หลายคนอาจจะถามว่าทำไมไม่สอบ IELTS หรือ TOEFL ไปเลยล่ะจะได้ไม่ต้องเสียเวลา หรือเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม นั่นเป็นเพราะ การที่เราเรียนภาษากับทางมหาวิทยาลัยเราจะได้หลักการเขียนรายงาน และได้รู้จักกับเพื่อนจากหลายๆประเทศ หลายคนที่เอาคะแนนสอบวัดผลภาษาอังกฤษยื่นเข้ามหาวิทยาลัย แต่จะมาประสบปัญหาการทำรายงาน หรือกฎเกณฑ์ต่างๆเมื่อเริ่มเข้าเรียนจริงๆ แต่คนที่ไม่ลงเรียนภาษาก็ไม่ต้องกังวลนะคะ เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย ทางมหาวิทยาลัยจะมีคอร์สอบรมการเขียนรายงานให้เราค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ บรรยากาศการเรียนก็สนุกค่ะเจอเพื่อนต่างชาติได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน ตอนเรียนภาษาจะแยกเป็น ฟัง พูด อ่าน เขียน ในด้านการเขียนจะเน้นไปในทางการเขียน essay โดยใช้ academic language ค่ะ และจะมีสอบเก็บคะแนนเป็นระยะ สุดท้ายจะมีการสอบ final คะแนนการสอบจะเทียบได้กับคะแนน IELTS และ TOEFL นะคะ ต่อมาเมื่อสอบผ่านก็จะเข้าไปเป็นนักศึกษา MIB เต็มตัว การเรียนการสอนหลักจะแบ่งเป็น Lecture 2 ชั่วโมง Tutorial  1 ชั่วโมง อย่างหลังนี่จะให้เราทำกิจกรรม แบ่งกลุ่มทำ case study บ้าง ในส่วนนี้ก็จะเปิดโอกาศให้เราทำความรู้จักและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนในชั้นเรียนค่ะ ในด้านของการเก็บคะแนนหลักๆ ก็จะมี รายงาน 1 เล่ม สอบ midterm บางวิชาก็จะไม่มี midterm แต่จะเพิ่มเป็นตัวรายงานแทน แล้วก็สอบ final อีก 50% ค่ะ ถึงจะทำคะแนนเก็บมาดีแค่ไหนแต่ถ้าfinal ได้ไม่ถึง 50% ก็จะถูกปรับตกนะคะ ก็ต้องตั้งใจทำข้อสอบดีดีนะคะ ระหว่างเรียน MIB อาจารย์จะนำ case study ต่างๆที่เป็น real life มาสอนค่ะ การนำเหตุการณ์จริงทางธุรกิจมาสอนและโยงเข้ากับทฤษฎีในหนังสือทำให้เราเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ ข่าวสารทุกอย่างจะถูกแจ้งผ่าน email มหาลัยส่วนตัวของเรานะคะ แนะนำให้ขยัน check email จากมหาวิทยาลัยค่ะ จะได้ไม่เสียผลประโยชน์ อย่างเช่นอาจารย์เลื่อนวันส่งงาน จะได้ไม่ต้องรีบปั่นงาน หรือรีบตื่นไปเรียน ฮ่าๆๆ

    สำหรับน้องๆหรือพี่ๆที่จะไปศึกษาต่อที่ UOW ก็สามารถสอบถามข้อมูลอื่นกับหญิงได้ตลอดค่ะ ยินดีมากๆด้วย ใครจะศึกษาต่อ MIB ก็สามารถติดต่อมาได้นะคะ หญิงเก็บไฟล์รายงานต่างๆไว้ค่ะ เผื่อจะใช้เป็นแนวทางได้(มั้ง) ฮ่าๆๆๆ สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณ Exit Education โดยเฉพาะพี่สุ มากนะคะ ที่คอยช่วยเหลือประสานงานดำเนินเรื่องเอกสารต่างให้เป็นไปอย่างราบรื่น ขอบคุณค่ะ

    [space height=”HEIGHT”]
    [column col=”1/3″]

    [/column]
    [column col=”2/3″]

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ พี่สุ ได้ที่ 081 7532294 ค่ะ
    หรือ Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

    [/column]

  • testimonials “น้องแม็ก” เล่าประสบการณ์การเรียนและใช้ชีวิตที่เมือง Perth ประเทศออสเตรเลีย

    testimonials “น้องแม็ก” เล่าประสบการณ์การเรียนและใช้ชีวิตที่เมือง Perth ประเทศออสเตรเลีย

    [column col=”1/2″]

    Lifestyle in PERTH

    “น้องแม็ก” ภูมิตะวัน เตี๋ยประดิษฐ์
    Phoenix Academy,  Australia

    วันนี้พี่เหมียวมีบทความ testimonials จาก “น้องแม็ก” ที่ได้เล่าประสบการณ์การไปเรียน และใช้ชีวิตที่เมือง Perth, Australia มาแชร์ให้เพื่อนๆ น้องๆ ได้อ่านกันค่ะ

    น้องแม็กบอกให้ทราบว่าภาษาอังกฤษของน้องพัฒนาขึ้น มีความสุข และสนุกสนานกับการไปเรียนที่ Phoenix Academy, Perth  Australia ทำให้พี่เหมียวดีใจมากๆ เลยค่ะ

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    ถามว่าตื่นเต้นหรือเหงามั้ย … กับการไปต่างประเทศคนเดียว

    ก่อนอื่นพี่ขอบอกเลยว่าน้องคนไหนมีโอกาสได้ไปต่างประเทศให้รีบคว้าโอกาสนั้นไว้ เพราะมันได้ภาษาจริงๆ แต่เวลาก็เป็นเรื่องสำคัญพี่ว่า 3 เดือนน่าจะเป็นเวลาที่ควรอยู่สั้นที่สุดสำหรับการไปเรียนรู้ชีวิตที่ต่างประเทศ และมันก็ขึ้นอยู่กับการขวนขวายของน้องๆด้วยว่าจะหาโอกาสให้ตัวเองได้ใช้ภาษาอังกฤษมากน้อยแค่ไหน ไป Study and Travel ดีกว่า Work and Travel มาก เพราะน้องจะได้เพื่อนมากมายหลายสัญชาติที่ต้องพูดภาษาเดียวกันเพื่อการสื่อสาร นอกจากนั้นน้องๆยังสามารถเรียนรู้ภาษาบ้านเกิดของเพื่อนๆต่างชาติได้ด้วย

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    พี่ไปอยู่ PERTH ที่ AUSTRALIA มา 3 เดือน เอาจริงๆ ก็อยากอยู่ต่อนะ แต่ว่า PERTH เป็นเมืองเล็กและที่เที่ยวน้อย พี่โชคดีที่ได้โรงเรียนดีและเพื่อนก็ดีมากๆด้วย คือ Phoenix Academy ต้องยอมรับว่าทุกที่มีทั้งครูที่ดีและไม่ดี แต่พี่ได้มีโอกาสเรียนกับอาจารย์ 3 ท่านคือดีหมดเลย

    จากประสบการณ์คิดว่าจะได้ภาษาจริงๆ ถ้า…
    1. ไปคนเดียว
    2. ไปในเมืองที่คนไทยอยู่น้อย เพื่อลดโอกาสการพูดภาษาแม่ของตัวเอง
    3. ไม่ไปอยู่แชร์เฮาส์ แต่ไปอยู่กับ Host Family เพราะเราจะได้เรียนรู้ชีวิตของคนออสซี่จริงๆ

    [/column]

    [space height=”15″]

    พี่ยอมรับว่า พี่โชคดีจริงๆ วันแรกไปเจอ Host พี่ก็เขินๆนะ 555+ ต้องเรียนรู้หลายอย่างมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการกินอยู่ การซักผ้า การเดินทาง ข่าวสาร โดย Host จะเป็นคนที่สอนเราเองทั้งหมด ไม่ต้องห่วง

    เมื่อถึงวันเรียนพี่ก็หนีคนไทยไม่พ้นจนได้ 55555+ โรงเรียนนี้มีคนไทยประมาณ 7 คน พวกเขาช่วยสอนพี่มากมาย ยอมรับว่าไม่มีพวกเขาพี่ก็คงแย่น่าดู เพราะคนที่มาอยู่ก่อนก็ย่อมมีประสบการณ์ดีกว่า เช่น เที่ยวไหนดี ร้านอาหารไหนอร่อย ที่ไหนขายของถูก การเรียนที่โรงเรียนพี่ว่ามันดีจริงๆ เราได้พูดภาษาอังกฤษตลอดแน่นอน ครูเค้าจะจับคนไทยแยกจากคนไทยอยู่แล้ว แต่เราอาจจะมี Classmate เป็นคนไทยก็ได้แต่นั่งห่างกัน การเรียนไม่เครียดเลย สนุกมากๆๆๆๆ แต่ขึ้นอยู่กับครูสอนด้วยนะ ถ้าครูตลกเรียนไปก็มีความสุข 3 เดือนมันเร็วมากๆๆๆจริงๆๆๆๆ พี่ได้เพื่อนเยอะมากๆๆๆๆ วันสุดท้ายนี่ร้องไห้กันระนาวเลย

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    เพื่อนที่พี่รู้จักมาจาก อังกฤษ แคนาดา อิตาลี โคลัมเบีย เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมันบราซิล ฮ่องกง ฝรั่งเศส มีมากกว่านี้อีกแต่จำไม่ได้แล้ว บางคนนี่ยังคุยผ่านเฟสอยู่เลยพอกลับจากออส สมัยนี้พี่ว่าเวียดนามกับจีนอะครองโลกมาก คือไปที่ไหนก็เจอพี่ว่านะ แต่พวกเรา friendly มากๆๆๆ การมีเพื่อนช่วยอะไร เพื่อนพาไปเที่ยว ไปทะเล ย่าง BBQ กินอาหารอร่อยๆ ไปคลับ ไป Apartment เพื่อนบ้าง สนุกแบบจริงๆ เกินจะบรรยายได้เลยแหละ มีคนเคยพูดว่าจะไปทั้งทีให้ไปไกลๆดีกว่า พี่ว่าไม่เกี่ยวนะ อยากไปที่ไหนก็ได้ แต่ควรเป็นประเทศที่ภาษาแม่คือภาษาอังกฤษ น้องจะได้เรียนรู้ภาษาจริงๆ

    [/column]

    [space height=”15″]

    [column col=”1/2″]

     

    สุดท้ายนี้พี่อยากบอกน้องๆว่า สิ่งที่เราได้รับมันคุ้มค่ามากสำหรับการไปเรียนรู้ชีวิตในต่างแดน พยายามขวนขวาย สร้างโอกาสให้ตัวเอง ไม่เอาแต่เรียนเสร็จกลับบ้านๆๆๆไปวันๆ เพราะเงินที่เราใช้ไปมันไม่ใช่น้อยเลย เราจะโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แถมยังพูดอังกฤษเก่งขึ้นอีก พี่ขอให้น้องๆพบเจอคนที่ดีสำหรับการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ของน้องๆนะคร้าบ ตั้งใจเรียนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด อยากทำอะไรให้รีบทำ อย่ารอให้มันสายเกินไป เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีโอกาสกลับไปที่นั่นอีกหรือไม่ ขอให้น้องๆโชคดีนะคร้าบ และมีความสุขมากๆกับการใช้ชีวิตที่แปลกใหม่ต่างแดนนะคร้าบน้องๆ

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”15″]

    ท้ายสุดจริงๆ ต้องขอขอบคุณพี่สาวที่แสนดี  คุณแม่ที่เปิดโอกาสและสนับสนุนให้แม็กได้มีประสบการณ์ที่สุดประทับใจในชีวิตครั้งนี้ และอีกคนที่ต้องขอขอบคุณที่ทำให้ทุกอย่างราบรื่น ติดต่อที่เรียนที่ Phoenix Academy, Perth AUSTRALIA  ช่วยประสานงานให้ทุกเรื่องตั้งแต่  ทำวีซ่า  จัดหาที่พัก จัดรถมารับที่สนามบินไปส่งที่บ้านโฮส  พร้อมตั๋วเครื่องบินให้ในการเดินทางไปเรียนครั้งนี้ – พี่เหมียวที่ Exit Education 

    [column col=”1/3″]

    [/column]
    [column col=”2/3″]
    สนใจข้อมูลเรียนต่อ ติดต่อ พี่เหมียว ได้ที่ 080-5548859 ค่ะ
    หรือ Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714
    [/column]

  • testimonials “น้องณัชณิชา” เริ่มจากเรียนภาษา & ทำงานพาทไทม์ ตอนนี้แพลนจะเรียนต่อปริญญาโทแล้วค่ะ

    testimonials “น้องณัชณิชา” เริ่มจากเรียนภาษา & ทำงานพาทไทม์ ตอนนี้แพลนจะเรียนต่อปริญญาโทแล้วค่ะ

    Miss Nutnicha Tipkham – นางสาวณัชณิชา ทิพย์คำ
    Course 1 : Cambridge College International, Sydney – Intensive & Academic English 24 weeks
    Course 2 : Bridge Business College, Sydney – Certificate to Advance Diploma in Finance Service and Accountancy

    [column col=”1/2″]

    — จากเด็กนักศึกษามหาวิทยาลัยพะเยา สาวเหนือ มาเป็นสาวน้อยออสซี่ ผู้มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานของตัวเอง และเธอก็ยังใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการทำงานพาทไทม์ควบคู่ไปกับการเรียนอีกด้วย โดยเธอเองไม่เคยขาดเรียนเลยสักครั้ง แถมยังตั้งใจเรียนเพื่อเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษของเธอให้ดีขึ้นอีกด้วย จากความที่เธอต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ทำให้เธอสามารถมีเงินเก็บ และช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้านได้ แต่เธอเองก็ไม่ลืมหน้าที่ของการเป็นนักเรียนที่ดี ที่จะต้องตั้งใจเรียนและเข้าเช็คชื่อทุกครั้งให้ถูกต้อง ☺ วันนี้สาวน้อยคนนี้เธอมีระดับภาษาอังกฤษที่พัฒนาขึ้นมาก และยังสามารถจ่ายค่าที่พักและค่าใช้จ่ายของตัวเองได้โดยไม่ต้องรบกวนที่บ้านอีกด้วย

    วันนี่พี่แพ็ตตี้จึงอยากจะแชร์เรื่องราวและประสบการณ์ดีๆของสาวน้อยคนนี้ให้ทราบกันค่ะ —

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”15″]
    สวัสดีค่ะ หนูชื่อนางสาวณัชนิชา ทิพย์คำ ปัจจุบันอายุ 24 ปีค่ะ มาจากจังหวัดพะเยา อำเภอบ้านสาง หนูจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ตอนนี้เปลื่ยนเป็นม.พะเยาแล้วค่ะ จบสาขาคอมพิวเตอร์มา พอเรียนจบแล้ว คุณพ่อก็ช่วยสมทบทุนให้หนูเปิดร้านขายขนม น้ำปั่น พวกชากาแฟและไอศครีมแถวๆหน้าม. เนื่องจากหนูเป็นลูกสาวคนโต คุณพ่อก็รับราชการเป็นนายกเทศมนตรีที่อ.บ้านสางที่หนูอยู่ หนูจึงเติบโตมาในครอบครัวที่เข้มงวด พ่อแม่ไม่ค่อยให้ไปไหนเลยค่ะ และด้วยความที่ภาษาอังกฤษของหนูก็แย่มากๆ เวลาเรียนวิชาภาษาอังกฤษแล้วมีอาจารย์ต่างชาติมาสอน หนูก็จะหลบหลังห้อง ไม่กล้าสบตาเพราะกลัวถูกถาม ภาษาอังกฤษของหนูเลยยิ่งแย่ไปใหญ่

    [column col=”1/2″]

    [/column]
    [column col=”1/2″]

    วันนึงหนูได้คุยและปรึกษาพี่แพ็ตตี้เรื่องเรียนต่อต่างประเทศ พี่เค้าแนะนำให้หนูเรียนที่ออสเตรเลีย เพราะหนูไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศเลย พี่เค้าบอกว่า ออสเตรเลียผู้คนเป็นมิตร มีความเป็น International มากๆ และพี่เค้าก็มีเพื่อนสนิทที่เรียนอยู่ที่นั่น เค้าบอกว่าจะช่วยฝากให้ดูแลหนู พี่แพ็ตตี้ทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆมาให้ หนูจึงนำไปปรึกษากับที่บ้านค่ะ ตอนแรกคุณพ่อก็ไม่อยากให้ไป เพราะเป็นห่วงหนู และไม่เชื่อมั่นในตัวหนู แต่หนูก็ให้คำสัญญาว่าหนูจะต้องทำให้ได้ จะตั้งใจเรียนมากๆ เพื่อที่อนาคตหน้าที่การงานของหนูจะได้ดีขึ้น และพี่แพ็ตตี้บอกว่า วีซ่านักเรียนออสเตรเลียสามารถทำงานพาทไทม์ได้ แต่พี่เค้าย้ำตลอดว่า แต่จุดมุ่งหมายเราคือไปเรียนหนังสือ ดังนั้นเราต้องเข้าเรียนตรงเวลา ทำการบ้าน และฝึกฝนทักษะมากๆ ส่วนเรื่องงานให้เราทำเป็นงานอดิเรก ถือเป็นผลพลอยได้ของวีซ่าประเภทนักเรียน

    [/column]

    [space height=”15″]

    [column col=”1/2″]

     

    หนูจึงอธิบายให้พ่อเข้าใจและสัญญาว่าหนูจะเป็นเด็กดีไม่ออกนอกลู่นอกทาง และคุณพ่อก็อนุญาติในที่สุดค่ะ

    เมื่อหนูเดินทางมาถึงออสเตรเลีย ซึ่งโชคดีที่พี่แพ็ตตี้ก็เดินทางไปดูงานซิดนีย์พอดี ทางบ้านจึงฝากฝังให้หนูเดินทางพร้อมพี่เค้าเลย ตื่นเต้นมากๆค่ะ พอถึงซิดนีย์หนูก็หลงรักทันที ประเทศนี้เมืองสวยงาม สะอาด มีระเบียบ เทคโนโลยีทันสมัยมากๆ พอหนูไปเรียน เจ้าหน้าที่ก็น่ารักดูแลช่วยเหลือทุกอย่าง และเพื่อนพี่แพ็ตตี้ก็มาช่วยดูแลหนูตามที่พี่เค้าบอกทุกอย่างค่ะ หนูตั้งใจเรียนมากๆ ฝึกพูดทุกวัน มีเพื่อนๆมากมาย โรงเรียนภาษาก็ชอบพาไปทัศนศึกษาทุกสัปดาห์เลย และหนูก็ลองสมัครงานพาทไทม์ทำดู ได้จังหวะพอดี หนูก็ได้งานพามไทม์เป็นพนักงานต้อนรับที่ร้านสปา หนูดีใจมาก และระหว่างนั้นหนูก็ศึกษาการนวดไทยแบบถูกวิธีด้วยค่ะ หนูลงเรียนคอร์สเพิ่มหลังเลิกเรียนภาษาอังกฤษตามปกติ จนได้รับประกาศนียบัตร และได้งานเพิ่มเป็นทีมนวดสปาในร้านหรูของซิดนีย์ เป็นร้านคนไทยค่ะ ซึ่งเกรดระดับพรีเมียมมากๆ

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”15″]

    หนูก็เก็บเงินจากงานพาทไทม์รวมทั้งทิปที่ได้จากลูกค้า และยังไม่ลืมที่จะตั้งใจเรียนและเข้าเรียนครบทุกชั่วโมงไม่ขาด ปัจจุบันหนูอยู่ที่ออสเตรเลียมาครบ 1 ปีพอดีค่ะ และหนูมีเงินเก็บพอสมควร สามารถจ่ายค่าที่พัก ค่าอาหารเองได้ โดยไม่ต้องขอทางบ้านแล้ว การเรียนหนูก็ไม่เสียด้วย ที่บ้านหนูภูมิใจในตัวหนูมากๆ และคุณพ่อก็เชื่อมั่นในตัวหนูมากขึ้น และขอฝากอีกเรื่องนึงว่า แม้ว่าซิดนีย์จะมีคนไทยเยอะ และมี Thai Town ทำให้ใครหลายๆคนคิดว่าเป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่เพราะจะไม่มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษ แต่สำหรับหนู หนูชอบที่นี่ค่ะ หนูหาอาหารไทยทานได้ไม่ยากเลย มีสังคมเพื่อนคนไทยที่จริงใจไว้คอยช่วยเหลือกันทำให้ไม่รู้สึก home sick แต่อย่าลืมว่าประชากรทั้งหมดของเมืองคือชาวต่างชาติ ถ้าเราหาโอกาส make friendกับเพื่อนใหม่ๆ และใช้ภาษาอังกฤษในทุกครั้งที่มีโอกาส เราก็จะฝึกฝนได้ดีค่ะ บอกเลยว่าออสเตรเลียดีที่สุดแล้วค่ะ ☺

    จากเด็กต่างจังหวัด ลูกสาวข้าราชการ ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศเลย ที่บ้านไม่เชื่อมั่นว่าหนูจะทำได้ แต่มาวันนี้ภาษาอังกฤษหนูดีขึ้นมากๆ ได้งานพาทไทม์ที่ดีทำ มีเพื่อนและสังคมที่ดี ต้องขอขอบพระคุณพี่แพ็ตตี้และ Exit Education มากๆนะคะ ที่เป็นส่วนหนึ่งให้หนูได้มีวันนี้ ☺ อยากจะบอกกับเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ คนที่คิดจะไปเรียนต่อต่างประเทศว่า ถ้าคุณตั้งใจจริง คุณก็สามารถทำได้ค่ะ และภาษาอังกฤษนั้นก็เป็นภาษาที่สำคัญมากๆนะคะ ถ้าจะถามหนูว่าประเทศไหนน่าเรียนที่สุด หนูตอบเลยว่าหนูหลงรักออสเตรเลียมากมาย แม้ว่าจะไม่เคยเดินทางไปประเทศอื่นก็ตาม และหนูจะเรียนภาษาให้ถึงระดับสูงสุด และมีแพลนจะต่อปริญญาโทที่นี่ และต้องการสมัครงานแบบ full time ที่นี่ด้วยค่ะ ถ้าใครสนใจ แนะนำว่าติดต่อพี่แพ็ตี้ได้เลยนะคะ พี่เค้าดูแลดีมากๆ มีปัญหาก็จะปรึกษาถามไถ่กันตลอดผ่านทางเฟสบุ๊คและไลน์ค่ะ หรือถ้าใครจะมาเป็นสาวออสซี่เหมือนกันกับหนู หนูก็ยินดีแนะนำและเป็นเพื่อนกับทุกคนเลยค่ะ

    ขอบคุณมากๆค่ะ
    ณิชา

     

    สนใจเรียนต่อออสเตรเลีย
    Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 , สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

  • testimonials “น้องนิว” University of Wollongong , Australia

    testimonials “น้องนิว” University of Wollongong , Australia

    เรื่องเล่าประสบการณ์ในต่างแดนของน้องๆ Exit’s Alumni

    แม้ว่าออสเตรเลียจะอยู่ในช่วงฤดูหนาว แต่บรรยากาศในงานรับปริญญาในวันนี้ก็สุดแสนอบอุ่น เมื่อครอบครัวโปตระนันทน์ ได้ไปร่วมแสดงความยินดีกับ น้องนิว (ศักดิธัช โปตระนันทน์)

    พี่สุ และทีมงาน Exit Education ทุกคน ขอแสดงความยินดีกับบัณทิตใหม่ด้วยค่ะ ❤ ❤ ❤

    [column col=”1/2″]

     

    หนุ่มหล่ออนาคตไกล Profile ดี ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เกียรตินิยม Bachelor of International Studies with Distinction จาก University of Wollongong ด้วยอายุเพียง 22 ปี เท่านั้น

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”HEIGHT”]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

     

     

    น้องนิว เริ่มหลงรักเมืองวูลลองกอง ตั้งแต่ได้ไปเรียนภาษาอังกฤษที่เมืองวูลลองกอง เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ ตอนที่ยังเรียน ม.4 ที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เมื่อเรียนจบ ชั้น ม. 4 จึงเข้าร่วมโครงการศึกษาและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม One Year Program Study ที่ The Illawarra Grammar School (รร. อิลลาวาร่า แกรมม่า เมืองวูลลองกอง)

    [/column]

    [space height=”HEIGHT”]

    ระหว่างที่เรียนอยู่ น้องนิวได้เรียนวิชาต่างๆ ได้แก่ ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ สุขศึกษา และพลศึกษา ซึ่งได้มีประสบการณ์การเรียนร่วมชั้นกับนักเรียนชาวออสเตรเลีย พัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ ตลอดจนเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวออสเตรเลีย เมื่อจบ Year 10 จาก The Illawarra Grammar School ก็กลับมาเรียนต่อ ที่ รร.สาธิต มศว ประสานมิตร จนจบ ม. 6

    จากความมุ่งมั่นที่อยากจะเรียนต่อปริญญาตรี ที่ Australia จึงตัดสินใจสมัครเรียน ป.ตรี ที่ University of Wollongong ในหลักสูตร Bachelor of International Studies (ซึ่งเป็นหลักสูตร 3 ปีเท่านั้น) ด้วยความขยันและพยามยาม น้องนิวสามารถเรียนจบตามที่ตั้งใจไว้ อีกทั้งยังได้เกียตรินิยมมาให้คุณพ่อคุณแม่ได้ภูมิใจด้วยค่ะ

    [message_box title=”” color=”yellow”]

    The Illawarra Grammar School หรือ TIGS (www.tigs.nsw.edu.au)

    The Illawarra Grammar School มีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นการพัฒนาเชิงวิชาการและกิจกรรม  เปิดทำการสอนเมื่อปี คศ.1959 เป็นโรงเรียนสหศึกษาเอกชนนิกายแองกลิกันประเภทไปกลับ ตั้งอยู่ที่เมือง Wollongong ห่างออกไปทางใต้ของ Sydney ประมาณ 70 กิโลเมตร เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล – ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนตั้งบนเนินเขา และมีสภาพแวดล้อมที่สวยงามมาก การเรียนการสอนอยู่ในระดับมาตรฐาน มีนักเรียนห้องเรียนละไม่เกิน 25 คน(Small Class Size) อัตราส่วนของครูต่อนักเรียนอยู่ที่ 1:10

    ข้อมูลเพิ่มเติม www.exiteducation.com/colleges-and-high-school-in-australia/the-illawarra-grammar-school 

    University of Wollongong (www.uow.edu.au)

    มหาวิทยาลัยรัฐบาลชั้นนำของประเทศออสเตรเลีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อค.ศ.1951 เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทางด้านการวิจัยและการเรียนการสอนในระดับสูง และยังได้รับรางวัลมหาวิทยาลัยดีเด่น อันดับ 1 ด้านการเรียนการสอนของประเทศออสเตรเลีย อันเป็นรางวัลสูงสุดทางด้านการเรียนการสอนของวงการศึกษาในประเทศออสเตรเลียด้วย โดยเปิดสอนในหลักสูตรปริญญาตรี ปริญญาโท และ ปริญญาเอก จำนวนทั้งหมด 490 สาขาวิชา จาก 9 คณะ และมีนักศึกษาทั้งหมดประมาณ 22,000 คน

    ข้อมูลเพิ่มเติม www.exiteducation.com/australia/university-of-wollongong

    [/message_box]

     

    [column col=”1/3″]

    [/column]

    [column col=”2/3″]

    หากน้องๆ คนใด ที่อยากมีประสบการณ์ การเรียนร่วมชั้นกับนักเรียนชาวออสเตรเลีย หรือสนใจหลักสูตรภาษาอังกฤษ รวมทั้งระดับมหาวิทยาลัย แต่ยังไม่มั่นใจเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ และอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ที่ Exit Education ของเราพร้อมให้คำปรึกษาฟรี…
    ติดต่อ พี่สุ 081-753 2294
    Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 ,
    สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

    [/column]

  • testimonials “น้องพิ้งกี้” La Trobe University, Australia

    testimonials “น้องพิ้งกี้” La Trobe University, Australia

    เรื่องเล่าประสบการณ์ในต่างแดนของน้องๆ Exit’s Alumni

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

     

    อีกหนึ่งความภูมิใจของพี่เหมียว และ พี่ๆทุกคนที่ Exit Education ขอแสดงความยินดีกับด็อกเตอร์คนใหม่สดๆร้อนๆจากรั้ว La Trobe University, Australia

     

    นส.วรรณวิภา เมืองถ้ำ
    หลักสูตร Doctor of Juridical Science
    La Trobe University, Australia

    [/column]

    [space height=”HEIGHT”]

    [column col=”1/2″]

    รู้จักพี่เหมียวจากเพื่อนแนะนำค่ะ พี่เหมียวบริการดีมากค่ะให้คำแนะนำอย่างละเอียดเลย โดยเฉพาะเรื่องเอกสารการทำวีซ่าค่อนข้างจะวุ่นวายพี่เหมียวก็ช่วยจัดการให้หมดเลยค่ะ

    ตอนนั้นที่ตัดสินไปเรียน La Trobe เพราะมีรุ่นพี่แนะนำมาค่ะ ส่วนเหตุผลที่เรียนสาขาวิชานี้เพราะจบนิติศาสตร์มาค่ะเลยต้องการเรียนต่อยอด

    [/column]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [space height=”15″]

    [column col=”1/2″]

    [/column]

    [column col=”1/2″]

     

    ตอนที่เรียนปริญญาเอกนี้ไม่การเรียนในห้องเรียนค่ะ เพราะได้เรียน coursework ในระดับปริญญาโทที่นี่มาแล้ว ดังนั้นพอเข้ามาเรียนปริญญาเอกเลยสามารถเริ่มเขียนวิทยานิพนธ์ได้เลย

    วันที่กลับไปมหาลัยวันแรกรู้สึกว่าเราต้องกระตือรือร้นตื่นตัวมากขึ้นแล้วนะ เพราะการเรียนปริญญาเอกเหมือนเราต้องเรียนด้วยตัวเองค้นคว้าด้วยตัวเอง ไม่มีเพื่อนๆ มาช่วยกันปรึกษาหารือทำงานกันเป็นกลุ่มเหมือนตอนเรียนปริญญาโทแล้ว

    [/column]

    [space height=”15″]

    พอตอนนี้เรียนจบแล้วรู้สึกโล่งใจมากค่ะ ว่าตลอดระยะเวลาหลายปีเราอ่านหนังสือค้นคว้าอย่างคร่ำเคร่งไม่เสียเปล่า ตอนนี้เราทำสำเร็จแล้ว

    คิดว่าระบบการศึกษาที่ต่างประเทศจะแตกต่างจากไทยตรงที่เปิดกว้างกว่า ยกตัวอย่างเช่นเวลาเราทำข้อสอบเราไม่จำเป็นต้องตอบตามธงคำตอบเดียวกันเป๊ะ แต่หากเรามีความคิดเห็นต่างออกไปแต่สามารถแสดงเหตุผลได้ดีก็สามารถได้คะแนนดีจากอาจารย์เช่นกัน

    สิ่งที่ประทับใจที่สุดในการเรียนออสเตรเลียในหลายปีนี้คงเป็นมิตรภาพที่ดีได้เพื่อนแท้ที่นี่  อาจารย์ที่ดี และคนอีกหลายคนที่เคยให้ความช่วยเหลือเราทั้งในยามปกติและยามที่เราเดือดร้อน

    ฝากสำหรับน้องๆ ที่จะตัดสินใจมาเรียนที่ออสเตรเลียว่าเป็นประเทศที่ดีอากาศดี ธรรมชาติสวยงามความเป็นอยู่ดี คือเราจะไม่คิดถึงเมืองไทยมากเท่าไหร่เพราะมีอาหารไทยเยอะ อาหารเอเชียก็เยอะโดยเฉพาะเมลเบิร์นเป็นเมืองให้การศึกษา น่ามาเรียนมากค่ะ

    ด้วยความมานะบากบั่นของน้องพิ้งกี้ ในที่สุดก็ได้เป็นด็อกตั้งแต่อายุยังน้อย อนาคตไกลแน่นอนค่ะ

    ทีมงาน Exit Education ขอให้น้องพิ้งกี้ประสบความสำเร็จในทุกๆสิ่ง ได้ใช้ความรู้ความสามารถ ทำประโยชน์แก่ตัวเองและสังคมส่วนรวมนะคะ

     

    [column col=”1/3″]

    [/column]

    [column col=”2/3″]

    สนใจเรียนต่อต่างประเทศ
    ติดต่อ พี่เหมียว (จงดี อิ่มโอชา) ได้ที่ 080-5548859 ค่ะ
    หรือ Exit Education สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02 1023746-7 ,
    สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-141714

    [/column]